โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

อุตตม แจงผลสำรวจความเสี่ยงเป็นเรื่องอนาคต ย้ำ รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจทุกทาง

ไทยรัฐออนไลน์ - Economics

อัพเดต 18 พ.ย. 2562 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 18 พ.ย. 2562 เวลา 03.21 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

“อุตตม” ชี้แจงกรณีรายงานของสภาธุรกิจโลกเรื่องความเสี่ยง ยัน ไม่ใช่ไทยมีความเสี่ยงในวันนี้ แต่เป็นการรับมือในอนาคต ลั่น รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางกระตุ้นเศรษฐกิจ

เมื่อเวลา 08.53 น. วันที่ 18 พ.ย. 2562 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีรายงานของสภาธุรกิจโลก (World Economic Forum - WEF) เรื่องความเสี่ยงในระดับโลกและระดับภูมิภาคในการทำธุรกิจ (Regional Risk of Doing Business 2019) ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กว่า ข่าวที่ออกมาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในบางกรณี จึงขออธิบายทำความเข้าใจ ซึ่งรายงานฉบับดังกล่าวเพื่อกระตุ้นให้แต่ละประเทศเตรียมรับมือภาวะการณ์ต่างๆ ที่อาจจะกระทบกับเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่ใช่การรายงานภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เป็นการสอบถามความคิดเห็นจากนักลงทุนในภาคธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก เกี่ยวกับการคาดการณ์ในอนาคต

ทั้งนี้ ในส่วนของผลการสำรวจความคิดเห็นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นอันดับ 1 ขณะความเสี่ยงที่ 2 คือ เรื่องการโจมตีทางไซเบอร์ และความเสี่ยงที่ 3 คือ เรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศ นอกจากนี้ WEF ยังได้ทำการจัดลำดับความสามารถทางการแข่งขันปี 2019 ด้วย โดยประเทศไทยมีดัชนีความสามารถทางการแข่งขันที่ดีขึ้นจากปี 2018 คือจากเดิม 67.5 คะแนน เป็น 68.1 คะแนน และอยู่ในอันดับที่ 40 ของโลก จากทั้งหมด 141 ประเทศ

นายอุตตม ย้ำว่า รายงานดังกล่าวไม่ได้บอกว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงในวันนี้ แต่เป็นการสำรวจเพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละประเทศมีความเสี่ยงในอนาคตแต่ละหัวข้อดังกล่าวในระดับใดเท่านั้น แม้ว่าเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกได้ แต่รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ เรื่องการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และการท่องเที่ยว ผ่านโครงการชิมช้อปใช้ การประกันรายได้สินค้าเกษตร ทำให้เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา กำลังซื้อและการบริโภคในประเทศเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น

“ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งแผนปฏิรูปตามยุทธศาสตร์ชาติ การดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศ จะช่วยผลักดันไทยสามารถรับมือแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกได้อย่างดี ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะติดตามและวิเคราะห์ผลแต่ละมาตรการอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง”

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0