กระทรวงอุตฯ ดึง 16 พันธมิตร ร่วมลงทุน 500 ล้าน จัดตั้ง "ไทยแลนด์อินโนสเปซ"ตั้งเป้าสู่ฮับสตาร์ทอัพนานาชาติ คาดเริ่มดำเนินการ ม.ค. ปีหน้า ประสานฮ่องกง-อิสราเอล เป็นเครือข่ายร่วมพัฒนาสร้าง เตรียมหารือรายละเอียดคาดเสร็จได้ในไตรมาสแรกปี 2562
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมมือกับภาคเอกชนและภาครัฐ 16 หน่วยงานเพื่อตั้งศูนย์นวัตกรรม (อินโน สเปซ ไทยแลนด์) ในรูปบริษัทร่วมทุนเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ สตาร์ทอัพ ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือสาขาการเกษตร ซ่ึ่งจะประเดิมเงินลงทุน 500 ล้านบาทคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์เพื่อเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 1 ปี 2562
ทั้งนี้ อินโดน สเปซ ไทยแลนด์ เป็นแพลตฟอร์มกลางที่มีพลังจากเครือข่ายทุกส่วนมา ช่วยพัฒนาสตาร์ทอัพ โดยเชิญผู้ประกอบการที่มีเทคโนโลยีมาร่วมทั้งในและต่างประเทศ โดยตั้งบริษัทอินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดำเนินการแทนรัฐที่ไม่คล่องตัว
สำหรับเอกชนรายใหญ่ที่จะเข้ามาร่วมเบื้องต้น ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จำกัด บริษัท เอสซีจี จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (มหาชน) และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยหน่วยงานรัฐที่ร่วมลงทุน คือ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยอินโน สเปซจะเข้าไปร่วมลงทุนและเมื่อสตาร์ทอัพเข้มแข็งจะถอนตัวแล้วนำทุนไปสนับสนุนรายอื่นนายอุตตม กล่าวว่า ได้ประสานความร่วมมือกับ Hong Kong CyberPort และหน่วยงานส่งเสริมสตาร์ทอัพอิสราเอล ซึ่งความร่วมมือทั้งหมดจะมุ่ง 3 รูปแบบ คือ พันธมิตรด้านการบ่มเพาะ พันธมิตรด้านองค์ความรู้ และพันธมิตรด้านการลงทุน
ทั้งนี้ จะตั้งโครงการที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) ณ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) จ.ระยอง และจะมีเครือข่ายอีก 5 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ ITC กล้วยน้ำไท และ ศูนย์ ITC จ.เชียงใหม่ CMU STeP มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช.กำลังหารือในรายละเอียดถึงการจัดตั้งอินโนสเปซที่เบื้องต้น สวทช. จะถือหุ้นไม่เกิน 5-10% ที่เหลือจะเป็นเอกชนเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็จะจัดตั้งบริษัทนาสด้า โฮลดิ้งที่ สวทช.จะถือหุ้น 50% และอินโนสเปซถือหุ้น 50% ใช้เงินทุน 100 ล้านบาท และจะดึงนักวิจัย สวทช.มาร่วมนำงานวิจัย ซึ่งจะสร้างสตาร์ทอัพ 100-200 รายต่อปี
นายจำรัส ลิ้มตระกูล อธิบดีสถาบันวิทยสิริเมธี กล่าวว่า สถาบันวิทยสิริเมธี ก่อตั้งโดย ปตท.จะเน้นการพัฒาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ระบบอัตโตมัติ และดิจิทัล เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ด้านนวัตกรรม จึงสอดรับกับนโยบายที่วางไว้จึงสนับสนุนการจัดตั้งอินโนสเปซด้วยการใช้พื้นที่ติดทะเลสาบของสถาบันวิทยสิริเมธี
