นครสวรรค์ – หนุ่มอ้างภัยแล้งทำนาไม่ได้ ก่อเหตุชิงทอง 2 เส้นหนัก 20 บาทจากร้านทองกลางเมืองนครสวรรค์ ก่อนวิ่งหนีไปตามเส้นทางแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่เทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ โดนพลเมืองดี-คณะสิงโตรุมจับทันควัน
วันนี้ (27 ม.ค.) พ.ต.ต.กิตติ สุขวงศ์คำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำจากห้างร้านทอง “อยากมีตัง” บริเวณริมถนนสายโกสีย์ ฝั่งตรงข้ามหน้าวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง อ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อเวลา 16.30 น.ที่ผ่านมา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าห้างร้านทองดังกล่าว พลุกพล่านเต็มไปด้วยผู้คนที่แห่กันมาชมพิธีแห่ขบวนเจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ำโพ งานเทศกาลตรุษจีนของจังหวัด
สอบถามนายชัยรัตน์ หวังวิศิษฏ์ เจ้าของร้านทองที่เกิดเหตุ ทราบว่าคนร้ายเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างผอม สวมเสื้อคลุมสีเทา กางเกงขายาวสีส้ม ทำทีเดินเข้าไปขอดูสร้อยคอทองคำ เส้นละ 10 บาท จากพนักงานขายจำนวน2 เส้น แล้วอาศัยจังหวะพนักงานเผลอ ฉกสร้อยทองทั้ง 2 เส้น วิ่งหลบหนีออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว
โดยคนร้ายได้วิ่งหนีไปทางถนนสวรรค์วิถี ที่กำลังมีการปิดถนนเพื่อเตรียมจัดแห่ขบวนตรุษจีน จนถูกพลเมืองดีจับกุมเอาไว้ได้ที่บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าแฟรี่แลนด์ เนื่องจากคนร้ายได้วิ่งไปชนหญิงสูงวัยคนหนึ่งจนล้มลงแล้วจะวิ่งหนีต่อ จึงถูกบุตรชายของหญิงสูงวัยรายนั้นไล่จับ พร้อมกับมีการเรียกคณะนักแสดงสิงโต ซึ่งเตรียมการแสดงที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงพอดี มาช่วยเหลือจนสามารถจับตัวเอาไว้ได้
กระทั่งทราบว่า ชายรายนี้เพิ่งก่อเหตุชิงทองมากจากห้างร้านทองอยากมีตัง ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร จึงได้เรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม พร้อมกับยึดของกลางเป็นสร้อยคอทองคำหนักเส้นละ 10 บาท 2 เส้น ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวไปสอบสวนยังโรงพัก เบื้องต้นทราบชื่อคนร้าย คือ นายปรีชา อินทร์นา อายุ 34 ปีชาว ต.บางพระหลวง อ.เมืองนครสวรรค์
จากการสอบสวนนายปรีชา ให้การว่า มีอาชีพรับจ้างทำนา แต่เนื่องจากช่วงนี้ เกษตรกรในพื้นที่บ้านเกิดไม่สามารถทำนาได้เพราะเจอปัญหาภัยแล้ง จึงได้ตัดสินใจมาชิงทองที่ห้างร้านทองดังกล่าว โดยทำทีเข้าไปขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาทจากพนักงานขาย ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าทางพนักงานจะให้ดูอย่างง่ายดาย ตนก็เลยขอให้พนักงานหยิบสร้อยทองหนัก 10 บาท มาให้ดูอีกเส้น แล้วก็อาศัยจังหวะที่พนักงานเผลอหันหลัง วิ่งหลบหนีออกจากร้านทองไป แต่ก็โชคร้ายที่วิ่งไปชนชาวบ้านจนล้มแล้วโดนล้อมจับเอาไว้ได้เสียก่อน ไม่เช่นนั้นตนจะนำทองที่ชิงมาได้ไปขายเพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัว
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัตินายปรีชา พบว่าเคยต้องโทษคดียาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ขณะที่ตัวคนร้าย ยังให้การระหว่างสอบปากคำอ้างว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช แต่ก็ไม่มีผลประการใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา วิ่งราวทรัพย์ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายตามขั้นตอนต่อไป.
