ลำปาง – เชื่อเป็นภาพถ่ายติดวิญญาณแน่..เมีย ผญบ.ในลำปาง ถ่ายภาพตอนเลี้ยงวัววันพระใหญ่ส่งให้สามีดูถึงกับตะลึง พบภาพคนปริศนายืนคล้ายผีหัวขาดยืนอยู่ชายป่า ชาวบ้านบอกเขามาเตือนใกล้ถึงวันเซ่นไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา
หลังจากนางธนัชชา กาวิละ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 บ้านอ้อน ม.7 ต.บ้านอ้อน อ.งาว จ.ลำปาง ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน บ้านอ้อน ได้ออกมาเผยภาพนิ่งซึ่งระบุว่า..เป็นภาพที่สุดสยองชวนขนหัวลุก เพราะภาพถ่ายติดอะไรบางสิ่ง ที่หลายคนเห็น ก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า..เป็นภาพผีหัวขาดยืนอยู่ใกล้กับกองข้าวโพดและคอกวัว ภายในป่าท้ายหมู่บ้านอ้อน..
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์ภาพดังกล่าว ซึ่งนางธนัชชา ได้นำผู้สื่อข่าวไปชี้จุดที่เอาวัวไปเลี้ยง และชี้จุดที่ยืนถ่ายรูปในคอกเลี้ยงวัว โดยบอกว่า รูปคล้ายคนปริศนาที่ปรากฎในภาพยืนอยู่ใต้ต้นสักอีกฝั่งกับกองเศษข้าวโพด พร้อมยืนยันว่าขณะนั้นไม่มีใครยืน หรืออยู่ข้างนอกบริเวณที่สีข้าวโพดแน่นอน เพราะทุกคนต่างออกไปพัก เพื่อรอข้าวโพดล็อตใหม่เข้ามาสี มีแต่รถไถนาที่จอดอยู่ กับตนเองที่อยู่ในคอกเลี้ยงวัว
นางธนัชชา เปิดเผยว่าวันที่ถ่ายภาพคือวันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2562 เวลา 11.00 น. ซึ่งในวันดังกล่าวถือเป็นวันพระใหญ่ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งตนได้เอาวัวกว่า 10 ตัว ไปเลี้ยงกินหญ้าบริเวณดังกล่าว และในช่วงที่เลี้ยงวัวอยู่นั้น ตนยืนอยู่ในคอกก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วถ่ายภาพนิ่งฝูงวัวกำลังกินหญ้า 6 ภาพ จากนั้นนายสุริยัน กาวิละ อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านอ้อน สามีก็ได้ไลน์มาถามว่าทำอะไรอยู่ ตนจึงได้ส่งภาพนิ่งทั้ง 6 รูปไปให้สามีดู และบอกว่ากำลังเลี้ยงวัวอยู่ที่คอก
ขณะนั้นนายสุริยัน ที่กำลังไปประชุมนอกพื้นที่ เมื่อเห็นรูปภรรยาส่งมาให้ดูก็เจอภาพสุดสยองชวนขนหัวลุก เพราะเมื่อซูมดูภาพเข้าไปก็พบ 2 ใน 6 รูปนั้น เหมือนมีคนสวมเสื้อสียีนส์น้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ เอามือไขว้หลัง ยืนอยู่บนเนินอีกฝั่งของคอกเลี้ยงวัว ซึ่งอยู่บริเวณใกล้กับกองเศษข้าวโพด และที่น่าตกใจ คือ ไม่มีหัว ซึ่งทั้ง 2 รูปถ่ายกันคนละมุมแต่ก็ยังยืนในท่าเดิม และเมื่อนำไปให้คนอื่นดู หลายคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าวิญญาณผีแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นภาพแล้ว นายสุริยันก็ยังไม่ได้บอกภรรยาทันที เพราะเกรงว่าภรรยาจะกลัว กระทั่งกลับไปถึงบ้านแล้วจึงได้บอกให้ภรรยารู้ ซึ่งเมื่อนางธนัชชา เห็นก็ตกใจและรู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาทันที โดยต่างคิดว่า อาจจะเป็นสิ่งเร้นลับ ทั้งเจ้าที่ หรือคนที่ตายบริเวณนี้มาบอกอะไรบางอย่าง
นายสุริยัน เล่าว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนก็เคยมีคนมาผูกคอตายบริเวณดังกล่าวมาแล้ว และป่าแห่งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้ดีว่า เป็นป่าที่เฮี้ยน ห้ามใครมาลบหลู่ แต่ละปีก็จะมีการนำเครื่องเซ่นไหว้เป็นเหล้าไห-ไก่คู่ รวมถึงอาหารคาวหวานอื่นๆ มาเลี้ยงตามความเชื่อกันทุกปี
นายสุริยัน ได้เล่าอีกว่า สำหรับป่าแห่งนี้ ชาวบ้านเรียกว่า ป่าห้วยเตีย เป็นป่าที่มีความศักดิ์สิทธิ์มีเจ้าป่าเจ้าเขาคุ้มครอง มีสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่ ซึ่งขณะนี้ก็ใกล้ที่จะถึงกำหนดเลี้ยงและเซ่นไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาแล้ว สิ่งที่พบเห็นนั้น ตนเชื่อว่า เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้ทราบว่า ใกล้ถึงเวลาที่จะทำพิธีเลี้ยงเซ่นไหว้แล้ว
“ครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเหตุการณ์แรกที่เจอ เมื่อหลายปีก่อนก็เคยเจอ กรณีวัวตัวใหญ่หายไป 1 ตัว ตนก็เดินออกตามหาบริเวณนี้ ก็ไม่พบ จึงรู้แล้วว่า มีอะไรบางอย่างซ่อนวัวไว้ จึงกลับมาบ้าน เพื่อกราบไหว้พระ อธิฐานบอกว่าตนเองรู้แล้วว่าจะถึงเวลาเลี้ยงเซ่นไหว้ ก่อนที่จะย้อนกลับไปดูอีกครั้ง ก็พบวัวนอนอยู่ในจุดที่เดินตามหาหลายรอบ”
นอกจากนี้ สิ่งที่เจอตอนนั้นก็คือ วัวดิ้นเหมือนมีอะไรบางสิ่งบางอย่างรัดและโน้มคอวัวให้ลงกับคันนา ไม่สามารถเดินกลับไปคอกได้ ตนจึงตั้งจิตอธิฐานขอเจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่ ก่อนที่จะดึงวัวขึ้นมายืน และเดินกลับคอกได้ ซึ่งยอมรับเลยว่าเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ตนเองเจอ แต่ชาวบ้านนั้นก็ทราบกันดีถึงความศักดิ์สิทธิ์ของป่าแห่งนี้ จึงไม่มีใครกล้าลบหลู่หรือบุกรุก
