จากกรณี การเสียชีวิตของ ม.ร.ว.เจริญศรี กมลาศน์ หรือ หม่อมแดง วัย 89 ปี ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 62 ที่บ้านพักภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 42 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เบื้องต้นมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ออกมาโพสต์ข้อความตามหาญาติของผู้ตาย หลังจากในพิธีสวดพระอภิธรรมไม่มีญาติเดินทางมาร่วมงาน จนกระทั่งล่าสุด ญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาแสดงตัวแล้วนั้น (อ่าน : อึ้งมรดก “หม่อมแดง” ส่อทะลุ 100 ล้าน ก่อนตายอยากหนีจากคนดูแล ยันหลานไม่ทิ้งแต่ถูกกัน)
นายกิตติพันธ์ จำปาสด เพื่อนบ้านของ ม.ร.ว.เจริญศรี เปิดเผยในรายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศทางอมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 น. ว่า ตนรู้จักกับป้าหม่อมมา 25 ปี ท่านเป็นผู้มีพระคุณกับตนเมื่อ 20 ปีก่อน ช่วยให้เงินตนไปซื้อนมลูก นิสัยเป็นผู้ใหญ่ใจดี พูดน้อย และบ้านที่ดินของป้าหม่อม 140 ตารางวา มีมูลค่าขายได้ราว 30 ล้านบาท ซึ่งบ้านของตนอยู่ตรงข้ามกัน แต่ก็ไม่ได้พบป้าหม่อมมา 3 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ป้าหม่อมเป็นยี่ปั๊วร้านหนังสือพิมพ์ย่านเสาชิงช้า และที่ผ่านมา ตนเห็นญาติของป้าหม่อมแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเสมอ
ซึ่งสภาพในบ้านของป้าหม่อม ฝุ่นเกาะหนาเป็นเซนติเมตร มีปลวกขึ้น ถังขยะเต็มในบ้าน วันที่ป้าหม่อมเสียชีวิต พี่นุช ผู้ดูแลป้าหม่อม บอกว่าป้าหม่อมเสียชีวิตแล้ว เวลาประมาณตี 2 ตนไปดูที่เกิดเหตุ เห็นเจ้าหน้าที่อาสา 2 คนเข้ามาที่เกิดเหตุ แนะนำให้ไปแจ้งความ ตนเห็นร่างของป้าหม่อมนอนหลังพิงปลายเตียง ขาเหยียดราบปกติ ป้านุชก็ร้องไห้เสียใจ ตนจึงปลอบใจ แล้วพาพี่นุชไปแจ้งความ โดยให้พี่นุชใช้โทรศัพท์มือถือของตนติดต่อดำเนินการ เนื่องจากพี่นุชไม่ได้ใช้โทรศัพท์ ตนจึงช่วยโพสต์ตามหาญาติ เพราะต้องการให้มีคนมาร่วมทำบุญเยอะ ๆ แต่พี่นุชอ้างว่าป้าหม่อมไม่ญาติแล้ว
จนกระทั่งวันจัดงานศพ ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ตนเองก็ไปรดน้ำศพไม่ทัน อีกทั้งทราบเรื่องที่พี่นุชปั๊มลายนิ้วมือของศพที่วัด จากเจ้าหน้าที่ของวัดด้วย ทั้งนี้ หม่อมกร หลานชาย และญาติของ ม.ร.ว.เจริญศรี ก็มาหา บอกว่า “กราบขอบพระคุณ” กับตน และหวังมาแสดงตัวเพื่อช่วยงานศพ โดยไม่พูดถึงเรื่องเงินและสมบัติ และขอเรียนชาวบ้านทุกคนมาเคารพศพ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ดูแลบอกว่าไม่ต้องไปที่งานศพ
นอกจากนี้ ตนได้อธิษฐานกับป้าหม่อมข้างโรงศพว่า “หากป้าหม่อมอยากจะให้ช่วยเหลือบางอย่าง ขอให้ป้าหม่อมทำให้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวให้ได้นะ” โดยหลังจากที่ตนโพสต์เรื่องราวลงเฟซบุ๊ก เรื่องนี้ก็ถูกนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง
นายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ เปิดเผยว่า ตามกฎหมาย การลงลายนิ้วมือในเอกสารพินัยกรรม ต้องมีพยานรับรองด้วย ส่วนพินัยกรรมลับ ต้องเป็นเอกสารจากลายมือของเจ้าของพินัยกรรมเท่านั้น ซึ่งลายนิ้วมือของ ม.ร.ว.เจริญศรี ก็สามารถพิสูจน์ได้
โดยกรณีนี้ ญาติของผู้เสียชีวิตมีสิทธิ์ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกต่อไป เช่น พ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน ที่เป็นทายาทโดยสายเลือด ซึ่งญาติของ ม.ร.ว.เจริญศรี สามารถแสดงตัวขอร้องเป็นผู้จัดการมรดก เพื่อตรวจสอบที่ดินและสมบัติของ ม.ร.ว.เจริญศรี ได้
นอกจากนี้ ตนมองว่านางปิยนุชอาจทำผิดพลาด หากไปแจ้งความว่า ม.ร.ว.เจริญศรี เสียชีวิต โดยไม่มีญาติเพราะเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว ก็อาจจะเข้าค่ายแจ้งความเท็จหรือไม่ และมีพิรุธที่ไม่ให้เจ้าพนักงานเข้าไปตรวจสอบศพ
น.ส.เพื่องฟ้า (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของ ม.ร.ว.เจริญศรี เปิดเผยว่า ป้าหม่อมเคยไปซื้อที่ดินที่ จ.ชลบุรี ประมาณ 5-6 ไร่ แล้วรู้จักสนิทกับแม่ของตน ตั้งแต่ตนยังเด็ก ตนทราบว่าป้าหม่อมมีสมบัติเยอะ ก่อหน้านี้ก็มีร้านหนังสือพิมพ์ย่านเสาชิงช้า และป้าหม่อมจะนั่งรถแท็กซี่กลับมาที่บ้านทุกวัน กระทั่งเมื่อ 5-6 ปีก่อน ป้าหม่อมเริ่มป่วยเดินไม่ได้แล้ว โทรมาหาที่บ้านตน บอกว่าอยากติดต่อขายที่ดินผืนดังกล่าว จึงนัดให้ตนไปรับป้าหม่อมที่บ้าน แต่คนที่บ้านของป้าหม่อมอ้างว่าป้าหม่อมไปไม่ได้ จนไปขายที่ครั้งที่ 2 คนดูแลของป้าหม่อมไปด้วย และขายที่ดินได้หลายล้านบาท และตนทราบว่าป้าหม่อมมีที่ดินอีกเยอะ
จากนั้น ป้าหม่อมบอกว่าอยากขายสมบัติที่เก็บไว้ในตู้เซฟ และที่ดิน เพื่อเอาเงินไปบริจาคทำบุญ ทั้งนี้ ตนไม่เคยได้ยินป้าหม่อมบอกว่า“กูไม่มีญาติ” แต่ป้าหม่อมบอกว่า“ถ้าตายไป ให้ติดต่อญาติ ถ้าตามหาญาติไม่ได้ ให้ยกให้แผ่นดิน” อีกทั้งเคยบอกตนว่า “เอาป้าออกไปอยู่ด้วยได้ไหม” แต่ตนก็ไม่กล้า เพราะกลัวซวย และกลัวคนดูแลเขาไปแจ้งความ ตนก็กลัวติดคุกเช่นกัน
นางสาวก้อย (นามสมมติ) อายุ 54 ปี คนสนิทของ ม.ร.ว.เจริญศรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนเองยังเด็กจนกระทั่งโต เห็นหม่อมแดงเป็นคนขยัน จิตใจดี มีพี่น้อง 4 คน ชาย 2 คน หญิง 2 คน หม่อมแดงเป็นคนสุดท้าย โดยหม่อมแดงเคยกล่าวกับตนไว้ตอนมีชีวิตอยู่ว่า“น้าแดงมีความประสงค์ ในฐานะที่เป็นสาวโสด หากไม่มีลูกหลาน อยากให้สมบัติที่เป็นชื่อของน้าแดง เช่น บ้านที่อยู่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 42 ต้องการยกให้มูลนิธิใดมูลนิธิหนึ่ง หากไม่มีลูกหลานมาแสดงตัว ก็ให้ยกตกเป็นของแผ่นดิน” ตลอดช่วงที่ผ่านมา ที่ตัวเองรู้จักกับหม่อมแดง ไม่เคยมีการพูดถึงนางปิยนุช
ทั้งนี้ ที่นางปิยนุชปั๊มรอยนิ้วมือของหม่อมแดงนั้น ส่วนตัวมองว่า ที่ผ่านมาหม่อมแดงสามารถเขียนหนังสือได้เอง เพราะท่านเรียนหนังสือ สามารถเซ็นเองได้ ส่วนการตั้งบำเพ็ญกุศลศพของหม่อมแดง ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่าทำไมมีเพียงแค่ 3 คืนเท่านั้น ทั้งที่นางปิยนุชไม่รอให้ญาติติดต่อกลับมา หรือให้คนรู้จักเข้าไปร่วมแสดงความเสียใจครั้งสุดท้าย
ดังนั้น ใครที่ไม่ใช่ญาติของหม่อมแดง แต่แอบอ้างตัวเอง ก็อยากให้หยุดพฤติกรรม เชื่อว่าใครทำอะไรไว้รู้อยู่แกใจ วันนี้อาจยังไม่ได้รับกรรม แต่วันหน้าก็ต้องได้รับกรรม กรรมมันหนีไม่พ้น
https://youtu.be/wwPRkPXmdW8