อีโอดีกระบี่ ตรวจเกาะเหลาไป อึ้งพบกลุ่มสัมปทานรังนก วางระเบิดดักขโมย

อีโอดีกระบี่ ตรวจจุดเกิดเหตุระเบิดบนเกาะกลางทะเล พบยังมีระเบิดแสวงเครื่องหลงเหลือ ขณะที่ ตร.ภาค 8 สั่งหาตัวกลุ่มสัมปทานรังนกคาดเป็นเจ้าของระเบิด ที่วางไว้ดักคนขโมยรังนก…

จากเหตุหนุ่มกระบี่ 3 คน อ้างว่าออกไปเก็บกล้วยไม้บนเกาะเหลาอูดู ซึ่งอยู่บนพื้นที่รอยต่อของ จ.กระบี่ และ จ.พังงา จนเกิดระเบิดขึ้นบนเกาะ เป็นเหตุให้นายบุญรอด ทองดี อายุ 31 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.เขาทอง อ.เมืองกระบี่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และนายสมชาย ทองดี อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.กระบี่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดที่กลุ่มผู้สัมปทานรังนกอีแอ่น วางดักไว้ป้องกันคนเข้าไปขโมยรังนกบนเกาะ

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.สุริยา รัตนกาญจนพันธ์ รอง ผบก.จ.กระบี่ พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล รอง ผบก.จ.กระบี่ พ.ต.อ.วรากรณ์ อ่อนแก้ว รอง ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.สมปอง บุญรัตน์ ผกก.สภ.เมืองพังงา จ.พังงา พ.อ.ชัยพิพัฒน์ รันสูงเนิน รอง กอ.รมน.กระบี่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจาก บชภ.8 จนท.อีโอดี บก.ภ.จ.กระบี่ จนท.ทหาร ฝ่ายปกครอง ชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ เดินทางไปยังเกาะที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสถานที่เกิดเหตุ และหาวัตถุพยาน

พบว่าเกาะที่เกิดเหตุ ไม่ใช่เกาะเหลาอูดู ตามที่ผู้ประสบเหตุแจ้งตั้งแต่ต้น แต่เป็นเกาะเหลาไป ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา โดยสภาพของเกาะ เป็นเกาะที่มีหน้าผาหิน พบมีการปลูกสร้างกระท่อมไว้บนหน้าผา พร้อมปิดป้ายห้ามเข้า ระบุว่าเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์นกนางแอ่น จนท.อีโอดี ปีนหน้าผาขึ้นไปตรวจสอบบริเวณโพรงถ้ำ ที่เป็นจุดพบศพของนายบุญรอด สูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร พบจุดที่มีร่องรอยระเบิด 3 จุด สายไฟที่คาดว่าเป็นสายชนวนจุดระเบิด ใกล้กันพบแท่นเหล็กสำหรับเหยียบ ซึ่งใช้เป็นตัวเชื่อมต่อขั้วไฟฟ้า จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นตรวจสอบรอบบริเวณ จนท.ยังพบระเบิดที่ยังไม่ทำงานอีก 3 ลูก เป็นระเบิดแสวงเครื่อง จนท.จึงต้องล่าถอยออกมา ยกเลิกภารกิจตรวจสถานที่เกิดเหตุไว้ก่อน เกรงจะเกิดอันตราย เนื่องจากแบตเตอรี่ของระเบิดยังมีสภาพใหม่ ระเบิดยังพร้อมทำงานตลอดเวลา

ภายหลังการตรวจสอบ จนท.ประชุมหารือร่วมกัน สรุปผลการตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าชายทั้ง 3 คน เข้ามาในพื้นที่เกาะดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มสัมปทานรังนกอีแอ่น กันไว้เป็นเขตหวงห้าม โดยคาดว่าช่วยเกิดเหตุ น่าจะมี 1 ใน 3 เหยียบเข้ากับแผ่นชนวนระเบิด จนเกิดระเบิดขึ้นพร้อมกัน 3 ลูก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนวัตถุระเบิด เชื่อว่าเป็นของกลุ่มสัมปทานรังนก วางดักเอาไว้กันไม่ให้คนร้ายเข้ามาขโมยรังนกบนเกาะ

ที่ประชุมสรุปร่วมกันว่า ให้ตำรวจจาก 4 ท้องที่ ประกอบด้วย สภ.อ่าวลึก สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ สภ.เกาะยาว สภ.เมือง จ.พังงา ทำคดีร่วมกัน เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่แนวรอยต่อของ 2 จังหวัด ระหว่าง 3 อำเภอ ประกอบกับจุดที่นำร่างผู้เสียชีวิตและคนเจ็บขึ้นฝั่ง อยู่ในท้องที่ สภ.อ่าวนาง ส่วนชุดสืบสวน มอบหมายให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ทำงานร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จ.พังงา และ ภ.จ.กระบี่ ทำการสืบสวนหากลุ่มผู้รับสัมปทานรังนกในพื้นที่ จ.พังงา และ จ.กระบี่ เพื่อตรวจสอบว่าเกาะดังกล่าว อยู่ในเขตสัมปทานของบริษัทใด เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดในการครอบครองวัตถุระเบิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว.