เย็นวันนี้ (18 ม.ค.) ขุนพล "ช้างศึก ยู23" มีอีกหนึ่งโปรแกรมสำคัญดวลซาอุดีอาระเบียในรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งจะฟาดแข้งในเวลา 17.15 น. ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต
หากย้อนไปดูผลงานและสถิติเก่าๆ เชื่อว่าแฟนบอลไทยเริ่มมีความหวังกับชัยชนะเกมนี้ เมื่อสถิติการพบกับทีมจากอาหรับ 4 ครั้ง ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1 โดยเคยพบซาอุดีอาระเบียมาแล้วเมื่อปี 2016 ผลออกมาเสมอ 1-1
ขณะที่ผลงานในรอบแรกนั้น เรียกได้ว่าพลิกจากซีเกมส์แบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เมื่อทีมชุดนี้มีการเข้าทำที่ยอดเยี่ยม ยิงประตูมากที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม ทำไปถึง 7 ประตูจาก 3 นัด นอกจากนี้ ยังเป็นทีมที่ยิงตรงกรอบมากที่สุด 18 ครั้ง น่าเสียดายอย่างเดียวในจำนวนครั้งที่ยิงเข้ากรอบแปรเป็นประตูได้ไม่ถึงครึ่ง ซึ่งเท่ากับว่าเกมรุกไทยยังใช้โอกาสเปลือง
เกมนี้เจอซาอุฯ ที่เคยวัดฝีเท้านอกรอบกันมาก่อนทัวร์นาเมนต์นี้เริ่ม ซึ่งไทยปราชัย 0-1 โดย อากิระ นิชิโนะ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นบอกว่า เอาเกมนั้นมาวัดอะไรไม่ได้เลยเมื่อไทยอยู่ในช่วงเตรียมทีม เพิ่งรวมตัวกันยังเล่นได้ไม่ถึงครึ่ง กับฟอร์ม 3 เกมแรกรอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่"เศรษฐีน้ำมัน" ก็เพิ่งมาถึงไทยเลยใส่ไม่เต็มร้อย แถมรูปแบบการเล่นก็ไม่ใช่รูปแบบที่ใช้ในเกมการแข่งขันจริง
3 เกเมแรกของซาอุฯ พวกเขาเล่นเกมค่อนข้างเร็ว เข้าทำเร็ว เพียงแต่ไม่ค่อยเด็ดขาดพอๆ กับไทย ดังนั้นเกมนี้ ไทยเป็นรองเพียงเรื่องสรีระความแข็งแกร่ง ซึ่งเราเคยเจอมาแล้วในเกมเจออิรัก แต่ก็เอาตัวรอดมาได้แม้จะสะบักสะบอมกันพอสมควร
เกมนี้ไทยถือความได้เปรียบอยู่ 2 เรื่อง คือ ความสดที่ได้พักมากกว่า โดยเฉพาะแข้งตัวหลักที่แทบไม่ได้ใช้ในเเกมส่งท้ายรอบแรก ส่วนซาอุฯ นั้น บดกับซีเรียมาอย่างหนักกว่าจะเอาชนะได้ อีกเรื่องคือผู้เล่นคนที่ 12 ที่เชื่อว่า เกมนี้น่าจะเข้ามาเต็มความจุสองหมื่นกว่าที่นั่ง
อีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้คือประสบการณ์ของกุนซือที่นิชิโนะมีมากกว่า อีกทั้งเคยพาญี่ปุ่นเอาชนะซาอุฯ มาแล้ว จึงน่ารู้สไตล์ยักษ์อาหรับทีมนี้พอสมควร และน่าหาทางรับมือไว้แล้ว ผิดกับซาอัด อัลเชห์รี กุนซือซาอุดีอาระเบีย ที่แม้จะบอกว่ามั่นใจในตัวลูกทีมที่จะรับมือแรงเชียร์แฟนบอลไทยได้ แต่ก็แอบมีลูกประหม่าเมื่อบอกว่าเกมนี้ไม่ใช่งานง่าย
ดังนั้น เกมนี้นอกจากการเปิดตำรางัดแท็กติกมาสู้กันแล้ว ประสบการณ์ของนักเตะคืออีกหนึ่งตัวแปร ฝั่งไหนจะมีสมาธิมากกว่ากัน ซึ่งยอมรับตามตรงว่าแอบหวั่นๆ กับเกมรับไทย ที่แสดงให้เห็นมาแล้วในเกมกับอิรัก ที่รวนและเป๋ไปพักใหญ่ เมื่อเจอกดดันหนักๆ เพียงแต่ยังดีที่เกมนั้นแนวรุกอิรักไม่เด็ดขาดพอเลยเอาตัวรอดมาได้
ซาอุดีอาระเบีย อาจจะมีขุมกำลังที่ดี พวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคที่เต็มไปด้วยความยากลำบากในรอบแรกด้วยการผ่านทั้ง ญี่ปุ่น, กาตาร์ และ ซีเรีย มาได้ไม่ธรรมดาแน่นอน
แต่ไทยเราแสดงให้เห็นแล้วว่าแม้ชื่อชั้นเป็นรองแต่ใจสู้เกินร้อย ทั้งออสเตรเลีย และ อิรัก โดนดีมาแล้วแม้จะแพ้ออสซี่ แต่ใช่ว่าแพ้แบบสู้ไม่ได้ เป็นการแพ้ที่น่าเสมอซะด้วยซ้ำ
เกมนี้เชื่อว่าไทยสู้ได้สนุกสูสีเกมรุกนั้นไม่มีอะไรน่าห่วง เหลือแค่เกมรับ จึงเชื่อว่านิชิโนะสั่งลูกทีมเล่นรัดกุมรอจังหวะฉวยโต้ยาวๆ ให้ 2 พี่น้อง"สุภโชค-ศุภณัฏฐ์" เป็นตัวเข้าทำ
90 นาทีแฟนไทยหัวใจระทึกตลอดเกมแน่ โอกาสเชียร์กันยาวๆถึง 120 นาทีมีสูงมากเผลอๆอาจต้องชี้ชะตาด้วยจุดโทษก็เป็นไปได้
เชื่อในความใจสู้ของนักเตะไทย ไม่ได้อวยออกนอกหน้า เกมนี้ไม่น่าแพ้ในเวลา แต่จะได้ไปต่อหรือไม่วัดกันด้วย "ใจ" ของนักเตะล้วนๆ
