เตหะราน, 13 ก.ค. (ซินหัว) -- องค์การการบินพลเรือนของอิหร่านกล่าวว่า ระบบนำวิถีขีปนาวุธที่กำหนดตำแหน่งผิดพลาดและการตัดสินใจยิงโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้นำไปสู่เหตุการณ์เครื่องบินโดยสารยูเครนตกในเดือนมกราคมโดยอุบัติเหตุ
"การเปลี่ยนพิกัดไปยังหน่วยงานป้องกันทางอากาศแห่งหนึ่งในกรุงเตหะราน ทำให้ส่วนหัวของขีปนาวุธเกิดการเปลี่ยนแปลง นำไปสู่ความล้มเหลวเนื่องด้วยความผิดพลาดของมนุษย์ในการปฏิบัติตามขั้นตอนการกำหนดตำแหน่งของระบบ" หน่วยงานการบินพลเรือนระบุในรายงานเมื่อวันเสาร์ (11 ก.ค.) พร้อมเสริมว่า "ความล้มเหลวในการทำงานดังกล่าวก่อให้เกิดอันตรายเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่า สามารถได้รับการควบคุม หากมีการดำเนินการตามแผนอื่น ๆ"
ข้อผิดพลาดที่สำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือหลังจากระบบตรวจจับหน่วยดังกล่าวและแจ้งข้อมูลไปยังหน่วยบังคับบัญชาแล้ว ผู้สั่งการได้ทำการยิงขีปนาวุธไปยังเป้าหมายทันที "โดยไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากศูนย์ประสานงาน"
"ตามขั้นตอนการทำงานที่ระบุไว้ หากผู้สั่งการระบบไม่สามารถติดต่อกับศูนย์ประสานงานและไม่ได้รับคำสั่งให้ยิง ก็เท่ากับพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ยิงขีปนาวุธนั้น" รายงานระบุดังนี้
"ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่า เหตุการณ์เหล่านี้มีสาเหตุมาจากความผิดพลาดของมนุษย์" รายงานเสริม
หน่วยงานยังชี้ว่ารายงาน "ไม่ได้ระบุข้อสรุปขั้นสุดท้ายของการสืบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้" และการสืบสวนยังอยู่ระหว่างดำเนินการต่อไป
อนึ่ง สายการบินยูเครนแอร์ไลน์เที่ยวบิน 752 ถูกขีปนาวุธโจมตีเพียงไม่กี่นาทีหลังออกจากสนามบินนานาชาติอิหม่าม โคไมนี ของกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 176 คนบนเครื่องบินโบอิง 737-800 ไม่มีใครรอดชีวิต
หลังจากนั้น กองทัพอิหร่านยอมรับว่าพวกเขาเข้าใจผิดว่าเครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินรบของยูเครนที่เป็นศัตรูและยิงเครื่องบินดังกล่าวเข้า "โดยไม่เจตนา"