เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์เลิกจ้างงานขยายวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานอายุ 15-39 ปีที่มีประมาณ 5 ล้านคน เงินเดือนเฉลี่ย 1-2 หมื่นบาทต่อเดือน และส่วนมากไม่ได้เป็นพนักงานออฟฟิศ เป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรกที่นายจ้างจะเลิกจ้างงาน และเนื่องจากกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีเงินออม หากถูกเลิกจ้างจะมีปัญหาเรื่องรายได้ไม่พอรายจ่ายทันที ทำให้ต้องไปกู้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยสูง ปัญหาสะสมไปเรื่อยๆ จะกลายเป็นปัญหาสังคมได้
นายธนวรรธน์ กล่าวถึงมาตรการคลายล็อกเฟส 5 ว่า คาดว่าจะมีเงินสะพัดและทำให้มีการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 250,000 ล้านบาทต่อเดือน จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและรักษาการจ้างงานได้ระดับหนึ่ง แต่การจะให้เศรษฐกิจกลับมาเหมือนเดิมคงอีกนาน คือต้องมีเงินสะพัดในระบบเฉลี่ย 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน ขณะที่ปัจจุบันฟื้นแค่ 50-60% เท่านั้น ดังนั้นต้องรอการท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา
