สุดช้ำใจของอาม่าฮวย ศรีวิรัตน์ อายุ 76 ปี ถูกลูกสาวในไส้รวมหัวพนักงานแบงก์อีก 4 คน รวมกันยักยอกเงินในบัญชีในขณะที่นอนป่วยด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ต้องเจาะคอ มือเท้าอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเอง ลูกสาวและพนักงานแบงก์แอบเปลี่ยนเงื่อนไข การเบิกถอนเงินเดิมในบัญชีออมทรัพย์ จากลงลายมือชื่อเป็นพิมพ์ลายนิ้วมือ และปลอมหนังสือมอบอำนาจ เบิกถอนเงิน และสั่งจ่ายเช็คแทนในบัญชีกระแสรายวัน ถอนเงินออกจากบัญชี อีกทั้งลักเอาเงินออกจากกองทุนเปิด ฯ ของอาม่าฮวยกว่า 250 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆไปจนหมดเกลี้ยง
เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดยนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ผ่านทีมข่าวอีจัน…ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2557 แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลอุดมสุข แต่มีความล่าช้า กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาพระโขนง 3 ศาลอาญาพระโขนง ได้ฟ้องคดีลูกในไส้ และพนักงานแบงก์ จำนวน 4 คน เป็นคดีอาญาข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม !
อาม่าฮวย เล่าว่า หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วก็เดินทางกลับไปที่บ้าน เมื่อตรวจดูทรัพย์สินต่างๆในตู้เซฟ พบว่าหายไป จากนั้นได้นำสมุดบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านถนนศรีนครินทร์ ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร จึงทราบว่าเงินในบัญชีกว่า 250 ล้าน ถูกถอดออกไปจนหมดเกลี้ยง จนมาทราบความจริงว่า ลูกสาวในไส้รวมหัวกับพนักงานแบงก์โอนเงินในขณะที่ตัวเองนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยการแอบพิมพ์ลายนิ้วมือ
ล่าสุดพรุ่งนี้ ( 19 พฤศจิกายน 2562 ) ทนายอนันต์ชัย พร้อมกับอาม่าฮวย จะเดินทางไปที่ศาลแพ่งพระโขนง เพื่อยื่นฟ้องแงบก์ชื่อดัง พนักงานแบงก์ จำนวน 4 คน และลูกสาวในไส้ของอาม่าฮวย ร้องเรียกเงินที่ถูกขโมยไปพร้อมค่าเสียหายจำนวน 350 ล้านบาท ติดตามความคืบหน้าได้ต่อในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีการเปิดเผยว่าแบงก์ดังกล่าวและพนักงานอีก 4 คน