ในอดีตมีคำกล่าวที่ได้ยินกันบ่อยๆว่า การทำงานประจำหรือเป็นลูกจ้างนั้นให้ตายอย่างไรก็ไม่มีวันรวย ด้วยเหตุผลที่ว่าลูกจ้างนั้นจะได้รับเงินเดือนจากนายจ้างจำนวนเท่าๆกันในแต่ละเดือน ไม่มีทางที่จะมีรายได้อย่างก้าวกระโดดง่ายๆเหมือนคนอื่นๆทำธุรกิจ แต่ในปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่าคำพูดดังกล่าวอาจจะไม่เป็นความจริงอีกต่อไปเพราะการทำอาชีพประจำก็สามารถกลายเป็นมนุษย์เงินล้านได้เช่นกัน
อย่าลืมว่าการที่จะเป็นคนรวยนั้นไม่ได้เกิดจากอาชีพที่ตัวเองทำ แต่เกิดจากวิธีคิดที่เราจะต่อยอดทางการเงินให้ตัวเองร่ำรวยขึ้นต่างหาก ซึ่งการเป็นมนุษย์เงินเดือนมีข้อดีอยู่ไม่น้อยเลย ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือการมีเงินเดือนที่มั่นคง มีรายได้อย่างสม่ำเสมอในแต่ละเดือน สามารถวางแผนการเงินได้ง่ายมากเพราะรู้ว่าตัวเองมีรายได้เท่าไหร่ เงินจะเข้าบัญชีวันไหน จะนำไปวางแผนเพื่อใช้จ่ายเท่าไหร่ และออมเงินเพื่อต่อยอดความมั่งคั่งอย่างไรได้บ้าง
แน่นอนว่ามนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อย กำลังหาวิธีการที่จะนำเงินออมในแต่ละเดือนมาต่อยอดให้ตัวเองมีความร่ำรวยและฐานะที่ดีขึ้น และวิธีการที่ง่ายที่สุดและดีที่สุดสำหรับมนุษย์เงินเดือนนั้นก็คือ การนำเงินออมมาทยอยลงทุนในหุ้นเพื่อสะสมความมั่งคั่งให้กับตัวเอง หรือเรียกง่ายๆว่า “การออมหุ้น” ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนก้าวไปสู่เป้าหมายเงินล้านได้
การออมหุ้นนั้นดีอย่างไร หากเราลองเปรียบเทียบง่ายๆระหว่าง คน 3 คนที่มีวิธีคิดทางการเงินที่แตกต่างกัน
- คนที่ 1 เงินเดือน 50,000 บาท ไม่ออมเงินเลย
- คนที่ 2 เงินเดือน 30,000 บาท ออมเงินไว้เงินฝาก เดือนละ 5,000 บาท ผลตอบแทน 1% ต่อปีทบต้น
- คนที่ 3 เงินเดือน 30,000 บาท ออมหุ้นแบบ DCA เดือนละ 5,000 บาท ผลตอบแทน 8% ต่อปีทบต้น
หากเวลาผ่านไป 10 ปี โดยทั้ง 3 คนนั้นไม่ได้มีเงินเดือนเพิ่ม และยังคงเก็บเงินในรูปแบบเดิมนี้แต่ละคนจะเป็นอย่างไร จากการคำนวณแล้วพบว่า
- คนที่ 1 เงินเก็บ 0 บาท
- คนที่ 2 เงินเก็บ 630,749 บาท
- คนที่ 3 เงินเก็บ 914,730 บาท
จากการคำนวณจะเห็นได้ว่า การสร้างเป้าหมายและไปถึงเงินล้านนั้นจะสำเร็จได้ในขั้นแรกเกิดจากการเก็บออม ไม่ได้อยู่ที่ว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ แต่ถ้าเรามีรายได้เยอะก็จะมีโอกาสสร้างเงินออมได้เยอะกว่าคนอื่น ยกเว้นจากตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดว่า “แม้เงินเดือนจะเยอะแต่ไม่เก็บออมเลย ผ่านไป 10 ปี เงินเก็บก็จะไม่มีซักบาท”
ในขณะเดียวกันถ้าเราเปรียบเทียบระหว่างคนที่ออมเงินในบัญชีเงินฝากของธนาคารกับออมหุ้นแบบ DCA ข้อแตกต่างก็คือ การออมเงินในเงินฝากนั้นเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและเงินต้นนั้นจะไม่หายไปไหนแต่ข้อเสียคือผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากนั้นปัจจุบันน้อยมาก ท้ายสุดพอผ่านไป 10 ปี การออมเงิน 5,000 บาทในแต่ละเดือนด้วยอัตราดอกเบี้ยปีละ 1% นั้นจะทำให้เราเก็บเงินได้ 630,749 บาท ส่วนการออมหุ้นแบบ DCA นั้นเป็นการลงทุนในหุ้นซึ่งมีความเสี่ยงที่สูงกว่า มีโอกาสกำไรหรือขาดทุนได้ แต่ในกรณีนี้เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ด้วยสมมติฐานว่าจะให้ผลตอบแทนปีละ 8% ทบต้นนั้น เงินที่ลงทุนเดือนละ 5,000 บาทนั้นก็สามารถงอกเงยได้ถึงระดับล้านบาทได้
จากตัวอย่างที่ยกมาก็จะเห็นได้ว่าการออมหุ้นแบบ DCA นั้น สามารถพาเราไปสู่เป้าหมายเงินล้านได้รวดเร็วกว่าการฝากเงินในธนาคารแม้เราจะมีรายได้น้อยกว่าคนอื่นก็ตาม เราสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินทีละน้อยต่อเดือนเพียงแค่เดือนละ 1,000 บาท จึงเป็นวิธีที่ทุกอาชีพสามารถนำไปใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็น ข้าราชการ พนักงานออฟฟิศ แม่บ้านทำความสะอาด ยามรักษาความปลอดภัย และทุกๆคนที่กำลังทำงานประจำนั้นสามารถสร้างเงินล้านด้วยตัวเองได้จากการออมหุ้นกันทุกคน หากใครที่คิดว่าตัวเองมีเงินเดือนน้อยแค่เดือนละ 15,000 บาท ลองเริ่มต้นที่ 8% ก่อนก็ได้ที่ 1,000 - 2,000 บาทต่อเดือน และเมื่อเงินเดือนเพิ่มขึ้นก็ออมมากขึ้นตามรายได้ของเรา
เมื่อเรารู้หนทางในการสร้างเงินล้านแล้ว อย่ามัวรีรออยู่เลย วันที่ดีที่สุดในการเริ่มลงทุนก็คือวันนี้ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ คนที่ออมก่อนหน้าเราก็ย่อมรวยก่อนเราเสมอ หากเรามีฝันที่จะสร้างเงินล้าน ก็ต้องสร้างขึ้นมา อย่าลืมแวะไปที่เวปไซต์ www.set.or.th/investnowstarter เพื่อดูข้อเสนอแนะว่าหากเราจะเริ่มวางแผนการลงทุนจะต้องทำอย่างไร และแน่นอนว่าเมื่อคุณสามารถสร้างเงิน 1 ล้านแรกได้ เงินล้านต่อๆไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร
ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ www.set.or.th/investnow
