19 ก.พ.2563 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ยุบหนอ พองหนอ” ระบุว่า การตัดสินคดียุบพรรคอนาคตใหม่กำลังขมวดปมมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ในสังคมมีทั้งที่ใช้เหตุผลเป็นใหญ่ และเห็นว่าทำผิดจริงและอยากให้ยุบ กับ เห็นว่าไม่ผิดและไม่อยากให้ยุบ รวมทั้งที่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ ซึ่งมีทั้งอยากให้ยุบ และไม่อยากให้ยุบ
สำหรับผมนะครับ ขอพูดตรงๆ และถือว่าเป็นกลางที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ คือ ไม่ว่าผลออกมายังไง สำหรับผมก็คือ”ถูก”ครับ เพราะผลที่ออกมา จะมีทั้ง ถูกใจ กับ ถูกกฎหมาย หรือ ทั้งถูกกฎหมายและถูกใจ ไปพร้อมกัน
พูดแบบนี้บางคนอาจคิดว่า ค่อนข้างกำกวม แต่ถ้าคนรู้อย่างที่ผมรู้ ก็คงเข้าใจ โดยไม่ต้องอธิบายอะไรครับ เพราะบางเรื่องก็พูดออกอากาศไม่ได้นะครับ สำหรับผมรับได้ ทั้ง 2 ถูกครับ
พูดตรงๆ นะครับ ผมอยากให้ยุบ เพราะนอกจากเรื่องคดีกู้เงินแล้ว ความผิดที่เราจับได้ มีเยอะมาก แถมพวกเขาเป็นคนปากรั่วมาก กร่างมาก อยากให้โดนหนักๆ สะใจอย่างว่า แต่….บังเอิญ ผมเป็นคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ เป็นสุภาพชนพอสมควร เพราะฉะนั้น ถ้าบังเอิญว่าเขาทำผิดจริง แต่ไม่ผิดถึงขั้นยุบพรรค แล้วโดนยุบพรรค เราในฐานะสุภาพบุรุษ ก็รู้สึกอายเหมือนกัน ถ้าเล่นงานเขา เกินกว่าความเป็นจริงตามกฎหมายเกลียดยังไง แต่เรายังมีความสุภาพบุรุษ เป็นสุภาพชน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เป็นสุภาพบุรุษ สุภาพชน ก็ตาม
มีเรื่องหนึ่งที่ผมสอนลูกอยู่ประจำคือ ให้เราคิดและทำตัวเหมือนเป็นนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวตชิงแชมป์เปี้ยนโลก นักมวยรุ่นเฮฟวี่เวตคืออะไร ปกตินักมวยที่ชกกัน จะชกกันโดยใช้น้ำหนักเป็นตัวแบ่งรุ่นที่จะชก แต่นักมวยรุ่นเฮฟวี่เวต ไม่จำกัดน้ำหนัก จะหนัก จะสูง จะใหญ่ กว่าเราแค่ไหน ถือว่าเป็นรุ่นเฮฟวี่เวต ถ้าเราอยากชนะ เราต้องเจ๋งจริง เพราะฉะนั้น เมื่ออยู่ในสนามการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นสนามใดก็ตาม ให้ทำตัวเหมือนนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวต คือใครจะมารูปแบบใด ใหญ่กว่าเราแค่ไหน สู้กับเราแบบสุภาพบุรุษหรือไม่ เคารพกติกหรือเปล่า เราไม่แคร์ แต่เราจะเป็นสุภาพบุรุษ ที่ยึดมั่นในกติกา และคว่ำมันให้ลงจงได้ แบบนี้สะใจและภูมิใจที่สุด
สรุป แล้วแต่ดุลยพินิจของศาล หรือ แล้วแต่บุญกรรม หรือแล้วแต่….อะไรก็ตามนะครับ ถ้ามันรอด เราก็สู้กันต่อไป ถ้ามันไม่รอด ก็เตรียมตัว สู้กันในรูปแบบต่อไป มันไม่เลิกแน่ๆ เพราะมันเป็นลูกกลมๆ สีส้มที่กลิ้งได้
