โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

"อัล ไอน์" ดวลเป้าเฉือน "ริเวอร์เพลท" เซอร์ไพรส์ ทะลุชิงฯสโมสรโลก

Manager Online

อัพเดต 18 ธ.ค. 2561 เวลา 19.56 น. • เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2561 เวลา 19.56 น. • MGR Online

อัล ไอน์ สโมสรจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทีมเจ้าภาพในปีนี้ กลายเป็นทีมจากเอเชียทีมที่สองที่เข้าสู่รอบชิงฯ ฟุตบอลสโมสรโลก ได้สำเร็จ หลังดวลเป้าเอาชนะ ริเวอร์เพลท ตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้ 5-4

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2018 วันที่ 18 ธันวาคม 2561 เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ คู่แรก อัล ไอน์ แชมป์ลีกสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในฐานะเจ้าภาพ ผ่านเข้ารอบมาพบกับ ริเวอร์เพลท แชมป์สโมสรอเมริกาใต้ หรือโคปา ลิเบอร์ตาโดเรส แข่งขันกันที่ฮัซซา บิน ซาเยด สเตเดียม เมืองอัล ไอน์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ทีมเจ้าภาพ อัล ไอน์ ไม่มีชื่อของโอมาร์ อับดุลราห์มาน เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งที่บาดเจ็บหนักไปก่อนหน้านี้ แต่ยังนำทัพมาโดย สึคาสะ ชิโอตานิ แข้งตัวเก่งชาวญี่ปุ่น, ไคโอ เฟร์นันเดซ ดาวยิงบราซิเลียน รวมไปถึง มาร์คุส เบิร์ก ดาวยิงดีกรีทีมชาติสวีเดน

ขณะที่ริเวอร์เพลท ตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้ นำทัพมาโดย 3 ผู้เล่นแนวรุก อย่าง ลูคัส แพร็ตโต้, ราฟาเอล บอร์เร่ และกอนซาโล่ มาร์ติเนซ โดยมี เลโอนาร์โด้ ปอนซิโอ้, อเซเกล ปาลาซิออส และอิกนาโช่ เฟร์นันเดซ คุมเกมแดนกลาง

เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที กลายเป็น อัล ไอน์ ที่มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะลูกเตะมุม และเป็นมาร์คุส เบิร์ก โหม่งเช็ดเข้าไปอย่างสวยงาม

ริเวอร์เพลทเสียประตูได้ไม่นานก็มาตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จในนาทีที่ 11 จากการทำประตูของ ราฟาเอล บอร์เร่ หัวหอกชาวโคลอมเบีย

ถัดมาเพียง 5 นาที น.16 ริเวอร์เพลท ขยับขึ้นนำเป็น 2-1 จากจังหวะสวนกลับ มาร์ติเนซ วางบอลไปให้ ราฟาเอล บอร์เร่ คนเดิม ซัดมุมแคบเข้าไปอย่างสวยงาม และจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งเวลาหลังเริ่มมาเพียง 6 นาที น.51 อัล ไอน์ มาได้ประตูตามตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ ชิโอตานิ เปิดบอลไปให้ ไคโอ เลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนยิงเข้าเสาไกลอย่างสุดสวย

น.69 ริเวอร์เพลท พลาดโอกาสทองในการขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ทีมมาได้ลูกจุดโทษ แต่ กอนซาโล่ มาร์ติเนซ ซัดด้วยซ้ายบอลไปชนคานอย่างแรง พลาดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เสมอกันไป 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกกไปอีก 30 นาที แต่ก็ยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ ผลจบลงที่สกอร์เดิม 2-2 ต้องชี้ขาดด้วยการดวลจุดโทษ

ในการดวลจุดโทษปรากฎว่าเป็น อัล ไอน์ ทีมเจ้าภาพ ที่ยิงแม่นกว่า ไม่พลาดเลยแม้แต่คนเดียว ขณะที่ ริเวอร์เพลท มาพลาดในคนสุดท้าย จาก เอ็นโซ่ เปเรซ

ส่งผลให้ อัล ไอน์ เฉือนชนะในการดวลจุดโทษไป 5-4 ตบเท้าผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และกลายเป็นสโมสรที่สองในเอเชียที่ผ่านเข้าชิงฯรายการนี้ได้สำเร็จ ต่อจากคาชิม่า อันท์เลอร์ส ในปี 2016

โดย อัล ไอน์ ทีมเจ้าภาพ จะไปรอพบผู้ชนะระหว่าง รีล มาดริด แชมป์ยุโรป กับ คาชิม่า อันท์เลอร์ส แชมป์เอเชีย ที่จะทำการแข่งขันคืนวันที่ 19 ธันวาคม 2561

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0