โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อัยการแถลงโต้"ชูวิทย์"มั่วใส่ร้าย"วงศ์สกุล" ว่าที่ อสส.เอี่ยวสั่งคดีวิคตอเรียซีเครท

Manager Online

เผยแพร่ 23 ก.ย 2562 เวลา 11.45 น. • MGR Online

MGR online - อัยการแถลงโต้ "ชูวิทย์" โพสต์เฟซบุ๊ก คลาดเคลื่อน นาย ว. ที่ระบุว่านักกม.กำลังไปใหญ่แจ้งวัฒนะ เอี่ยวสั่งคดีวิคตอเรียซีเครท ยันไม่ใช่ "วงศ์สกุล" ว่าที่ อสส. ย้ำเป็นงานคดีอัยการค้ามนุษย์ ที่สั่งฟ้องแล้ว แค่รอตามตัวหนีนานได้ 20 ปี

วันนี้ (23 ก.ย.) "นายประยุทธ เพชรคุณ" รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวชี้แจงกรณี นายชูวิทย์ได้โพสต์เฟซบุ๊กและกระแสข่าวการดำเนินคดีของพนักงานอัยการ กับผู้ต้องหาคดีวิคตอเรียซีเครทในส่วนของนายกำพล และนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ สามี-ภรรยา เจ้าของวิคตอเรียซีเครท ทำนองว่า "นาย ว. ซึ่งกำลังจะไปทำงานใหญ่โตแถวถนนแจ้งวัฒนะ" โดย นาย ว. ดังกล่าวน่าจะหมายถึงนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษและกำลังจะเป็นว่าที่อัยการสูงสุด เข้าไปเกี่ยวข้องการสั่งคดีดังกล่าว

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการ กล่าวว่า ขอชี้แจงข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนต่อช้อเท็จจริง โดย นาย ว. หรือ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และว่าที่อัยการสูงสุดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดในการดำเนินคดีดังกล่าว เนื่องจากคดีดังกล่าวไม่อยู่ในความรับผิดชอบขอฝสำนักงานคดีพิเศษอีกทั้งไม่มีคดีที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับคดีวิคตอเรียซีเครทอยู่ในการพิจารณาของสำนักงานคดีพิเศษแต่อย่างใด คดีที่กล่าวหานายกำพล, นางนิภา และบริษัท วิคตอเรียซีเครท จำกัด นั้นอยู่ในอำนาจดำเนินคดีของอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของสำนักงานคดีพิเศษที่นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ เป็นอธิบดีอัยการอยู่

นายประยุทธ กล่าวอีกว่า ส่วนรายละเอียดคดีที่กล่าวหานายกำพล, นางนิภา และบริษัท วิคตอเรียซีเครท จำกัด กับพวกอีกหลายคนที่อัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ รับผิดชอบอยู่จำนวน 2 คดี และพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องทั้ง 2 คดี แต่นายกำพลได้หลบหนี ขณะนี้ศาลได้ออกหมายจับเพื่อนำตัวมาฟ้องภายในอายุความ 20 ปีแล้ว โดยในส่วนผู้ต้องหาอื่นๆ อีกหลายคน พนักงานอัยการได้ส่งฟ้องต่อศาลอาญา แผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญาในข้อหาค้ามนุษย์ โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบในการค้าประเวณี เป็นธุระจัดหาและสมคบ โดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามฯ

ต่อมาทั้ง 2 คดี ศาลได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27สิงหาคม 2561และ 24 กันยายน 2561 ยกฟ้องจำเลยทุกคนในข้อหาค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบในการค้าประเวณี เป็นธุระจัดหาและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ แต่ให้ลงโทษในข้อหาเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามฯ นอกจากนี้คำพิพากษายังมีการวินิจฉัยด้วยว่านายกำพล และนางนิภา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดที่ศาลลงโทษจำเลยคนอื่นๆ ดังกล่าว ซึ่งหลังจากศาลมีคำพิพากษาทั้งนายกำพลและนางนิภา ได้ร้องขอความเป็นธรรมขอให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ เพื่อให้ทบทวนคำสั่งโดยส่วนหนึ่งอ้างอิงคำพิพากษาดังกล่าว ซึ่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า หนังสือร้องขอความเป็นธรรมฟังขึ้นในส่วนของนางนิภาจึงกลับความเห็น สั่งไม่ฟ้องซึ่งรองอัยการสูงสุดเห็นด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องของอธิบดีอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาแล้ว เห็นพ้องด้วย โดยไม่แย้งในการกลับคำสั่งดังกล่าว คดีจึงถึงที่สุดตามขั้นตอนของกฎหมาย เเต่ในส่วนของนายกำพล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ยืนยันฟ้องนายกำพลไปตามคำสั่งเดิมทั้ง 2 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษติดตามตัวนายกำพลมาให้พนักงานอัยการเพื่อส่งฟ้องภายในอายุความ 20 ปี

"การแถลงข่าวนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจในสิ่งที่คลาดเคลื่อนเพราะถือเป็นความเสียหายร้ายแรง โดยเรื่องทางกฎหมายนั้น ว่าที่อัยการสูงสุดยัง ไม่ได้ประสงค์ที่จะดำเนินการใดๆ ในทางกฎหมาย อย่างไรก็ดีในส่วนของนายชูวิทย์ หากเห็นว่า สิ่งที่ได้ดำเนินการมานั้นมีข้อผิดพลาด ก็ควรที่จะออกมาดำเนินการใดๆ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ"

เมื่อถามว่า มีข้อน่าสงสัยหรือไม่ว่าเหตุใดจึงพุ่งเป้ามาที่นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ว่าที่อัยการสูงสุดคนต่อไป

นายประยุทธ ระบุว่า นายวงษ์สกุล เองยังสงสัยเหมือนกันว่าเหตุใดจึงพุ่งเป้ามาที่ตน ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีอำนาจสอบสวนและไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว

เมื่อถามย้ำถึงการดำเนินคดีกับเสี่ยกำพลและนางวิภา นายประยุทธ รองโฆษกอัยการ ระบุว่า ในส่วนของนายกำพล ก็มีระยะเวลาในการติดตามตัวมาดำเนินคดีภายในอายุความ 20 ปี ซึ่งดีเอสไอจะเป็นผู้ดำเนินการติดตามตัว หากพบว่ามีได้หลบหนีไปต่างประเทศและมีข้อมูลที่อยู่ในต่างแดน ก็จะต้องประสานมายังสำนักงานอัยการต่างประเทศเพื่อจะดำเนินการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0