โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อัยการสูงสุดชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดีกรุงไทย พานทองแท้ ปิดฉากจบแค่ชั้นต้น

THE STANDARD

อัพเดต 28 พ.ค. 2563 เวลา 14.44 น. • เผยแพร่ 28 พ.ค. 2563 เวลา 14.44 น. • thestandard.co
อัยการสูงสุดชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดีกรุงไทย พานทองแท้ ปิดฉากจบแค่ชั้นต้น
อัยการสูงสุดชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดีกรุงไทย พานทองแท้ ปิดฉากจบแค่ชั้นต้น

วันนี้ (28 พฤษภาคม) อัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งชี้ขาดไม่ยื่นอุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโต ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย จำนวน 10 ล้านบาท ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91 

 

สำหรับคดีนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งต่อมาทางอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้ทำความเห็นส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีศาลสูงว่า เห็นควรไม่อุทธรณ์คดีต่อ ซึ่งอัยการสำนักงานคดีศาลสูงเห็นด้วย ตามกฎหมายจึงต้องส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาตาม พ.ร.บ. การสอบสวนคดีพิเศษฯ มาตรา 34 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่  

 

กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณากลั่นกรองเรื่องดังกล่าว เพื่อเสนอความเห็นต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาจากพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวน ความเห็นของพนักงานอัยการ และคำพิพากษาของศาล ทั้งที่พิพากษายกฟ้อง และที่ทำความเห็นแย้งไว้ท้ายคำพิพากษา ประกอบกับความเห็นของพนักงานอัยการที่เห็นควรไม่อุทธรณ์คำพิพากษาแล้ว เห็นว่ายังมีประเด็นสำคัญแห่งคดีที่ควรต้องนำสู่การพิจารณาของศาลสูงเพื่อวินิจฉัย อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงมีความเห็นควรให้นำคดีขึ้นสู่ศาลสูง โดยส่งให้อัยการสูงสุดชี้ขาด เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา 

 

มีรายงานว่า คำสั่งชี้ขาดดังกล่าวลงนามโดยรองอัยการสูงสุดคนหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด โดยเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นขอขยายอุทธรณ์ครั้งที่ 6 โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ถึงวันที่ 25 มิถุนายนนี้ แต่เมื่อมีการชี้ขาด อัยการสูงสุดสั่งไม่อุทธรณ์ คดีดังกล่าวถือเป็นอันสิ้นสุด

 

สำหรับคดีนี้ ในศาลชั้นต้น องค์คณะผู้พิพากษา 2 คนมีความเห็นต่างกันในการตัดสิน โดย 1 ในองค์คณะมีความเห็นแย้งว่า พฤติการณ์ที่มีเช็คเงินลงชื่อ วิชัย กฤษดาธานนท์ อดีตผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร โอนเข้าบัญชีพานทองแท้ เป็นความผิด เห็นควรให้ลงโทษจำคุก 4 ปี ซึ่งมีการบันทึกไว้เป็นความเห็นแย้งท้ายคำพิพากษาด้วย โดยหากคู่ความยื่นอุทธรณ์ความเห็นแย้งนี้ในสำนวน ก็จะขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์ทราบด้วย โดยเหตุผลคำสั่งชี้ขาดดังกล่าว คาดว่าจะมีการชี้แจงจากสำนักอัยการสูงสุดต่อไป

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

 

ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0