โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

อัพเดทเทรนด์การให้บริการของโรงพยาบาล และการปรับตัวในยุค COVID-19

Health Addict

อัพเดต 05 มิ.ย. 2563 เวลา 10.40 น. • เผยแพร่ 05 มิ.ย. 2563 เวลา 09.11 น. • Health Addict
หลังจากมีมาตรการชัตดาวน์สถานที่ต่างๆ เพื่อลดอัตราการแพร่ของโรคระบาดทำให้โรงพยาบาลหลากหลายแห่งต้องปรับตัวด้วย service ใหม่ๆ โดยที่คนไข้ไม่ต้องเดินทางไปถึงโรงพยาบาลแล้ว
หลังจากมีมาตรการชัตดาวน์สถานที่ต่างๆ เพื่อลดอัตราการแพร่ของโรคระบาดทำให้โรงพยาบาลหลากหลายแห่งต้องปรับตัวด้วย service ใหม่ๆ โดยที่คนไข้ไม่ต้องเดินทางไปถึงโรงพยาบาลแล้ว

หลังจากมีมาตรการชัตดาวน์สถานที่ต่างๆ เพื่อลดอัตราการแพร่ของโรคระบาด ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ฟิตเนส รวมถึงโรงพยาบาล ต่างก็ต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่หลายๆ คนก็อาจจะยังไม่ชิน วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักเซอร์วิสใหม่ของโรงพยาบาลในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพบแพทย์ ฉีดวัคซีน หรือแม้แต่การรับยา ก็ไม่ต้องเดินทางไปถึงโรงพยาบาลอีกต่อไป เรียกว่าสะดวกสบายและเหมาะสำหรับยุคนี้เป็นอย่างมาก

ปรึกษาแพทย์ผ่าน VDO Call 
มาถึงยุคที่เราสามารถปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผ่าน VDO Call แบบเรียลไทม์ได้แล้ว ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรืออยู่ที่ทำงานเราก็สามารถปรึกษาพูดคุยและโต้ตอบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เสมือนเราอยู่ในห้องตรวจคนไข้จริงๆ ไม่ว่าจะปรึกษาปัญหาสุขภาพ ติดตามอาการ หรือสั่งจ่ายยา พร้อมคำแนะนำการใช้ยาจากเภสัชกร อย่างที่โรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลสมิติเวชตอนนี้ก็มีเปิดให้บริการแล้วเช่นกัน ซึ่งค่าบริการก็ถือว่าสมเหตุสมผลและโอเคเลยทีเดียว หากเทียบกับการประหยัดเวลา ประหยัดค่าเดินทาง แถมยังสะดวกสบายมากกว่าเดิม 
โรงพยาบาลกรุงเทพ : ค่าแพทย์ 800 บาท (ระยะเวลาประมาณ 15 - 20 นาที) เปิดให้บริการ 08.00-16.00 น.
https://www.bangkokhospital.com/th/news-and-events/bangkok-hospital-delivery
โรงพยาบาลสมิติเวช: ค่าบริการ 500 บาท (ระยะเวลาปรึกษาแพทย์ 15 นาที) เปิดให้บริการ 24 ชม.
https://www.samitivejhospitals.com/th/samitivej-virtual-hospital/
โรงพยาบาลพญาไท: ค่าบริการ 400 บาท (ระยะเวลาปรึกษาแพทย์ 15 นาที) เปิดให้บริการ 08.00-17.00 น.
 https://www.phyathai.com/clinic-connect/clinic_connect_pt1?
Medicine Delivery จัดส่งยาให้ถึงที่
เดี๋ยวนี้ไม่ได้มีแค่ฟู้ดเดลิเวอรี่เท่านั้น เพราะตอนนี้หลายโรงพยาบาลมีบริการจัดส่งยาให้ถึงบ้าน พร้อมให้คำปรึกษาด้านการใช้ยาจากเภสัชกร โดยใช้ระยะเวลาในการจัดส่ง 2-5 วันทำการ เรียกว่าสะดวกสุดๆ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถเข้าไปรับยาที่โรงพยาบาลได้ หรือผู้ป่วยที่มีอาการคงที่และรับยาต่อเนื่อง ซึ่งการจ่ายยาทั้งหมดอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ ทั้งนี้อาจมียาบางชนิดที่ถูกยกเว้นบริการอย่างเช่นยากลุ่มควบคุมพิเศษ ยาที่ต้องได้รับการควบคุมอุณหภูมิ และยาออกฤทธิ์ต่อประสาท เป็นต้น
Home Care ตามไปดูแลถึงบ้าน
ไม่ว่าจะเจาะเลือด ตรวจสุขภาพ หรือฉีดวัคซีน อย่างวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ควรฉีดประจำทุกปี วัคซีนปอดอักเสบ เดี๋ยวนี้เขาก็มีให้บริการให้ถึงที่บ้านแล้วนะ รวมถึงรายการตรวจสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจติดตามควบคุมเบาหวาน ตรวจการทำงานของไต ตรวจปริมาณไขมันในเลือด หรือตรวจระดับกรดยูริค ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลอาจมีค่าบริการที่แตกต่างกันออกไป สามารถสอบถามรายละเอียดและนัดเวลาล่วงหน้าได้เลย
บริการเหล่านี้ถือเป็นทางเลือกใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค และยังช่วยลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการเฮลธ์แคร์ในประเทศไทย ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถเข้าถึงบริการจากโรงพยาบาลได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ใครเคยทดลองใช้บริการแล้วเวิร์คไม่เวิร์คยังไง อย่าลืมมาแชร์กันนะ
 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0