25 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงาน ว่าจากกรณีที่นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/2 หมู่ 3 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานีซึ่งถูก จนท.ทหารควบคุมตัว เป็นผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง เมื่อเย็นวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา และนำตัวไปสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหารต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขณะคุมตัวเกิดหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุ และนำส่ง รพ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร อย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะรีบส่งต่อไปยัง รพ.ปัตตานีทในช่วงเช้ามืดวันที่ 21 ก.ค. และแพทย์นำเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู วันที่ 22 ก.ค.โดยแพทย์พบว่านายอับดุลเลาะมีสภาพสมองบวมเกิดจากขาดหายใจเป็นเวลานาน จากนั้นจึงได้ส่งรักษาตัวต่อ ที่ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยนายอับดุลเลาะไม่รู้สึกตัวอีกตั้งแต่เข้ารับการรักษา
จนกระทั่งเมื่อเวลา04.00 น. วันนี้ (25 สค.) นายอับดุลเลาะอีซอมูซอได้เสียชีวิตแล้ววที่ห้องไอซียูรพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมการรักษารวม 35วัน ซึ่งทางครอบครัวและญาติได้ประสาน กับ รพ.สงขลานครินทร์อ.หาดใหญ่จ.สงขลา เพื่อนำรถโรงพยาบาลส่งศพกลับบ้านพักที่สายบุรีจ.ปัตตานีโดยศพนายอับดุลเลาะ มาถึงบ้านพักเมื่อเวลา13.00น.วันเดี่ยวกัน จากนั้นครอบครัวได้ทำพิธีตามหลักศาสนาอิสลาม โดยมีญาติพี่น้อง ประชาชนจำนวนมากมาร่วมพิธีศพ และเมื่อเวลา17.00 น.25สค.นำศพไปฝั่งที่กูโบร์บ้านกูบังบาเดาะ ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรีจ.ปัตตาน
ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานว่า หลังจากที่นายอับดุลเลาะถูกจนท.คุมตัวและหมดสติ จนเป็นข่าว และมีกระแสข่าวในโซเซี่ยลกับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่สนใจกับเรื่องนี้อย่างแพ่ร่หลาย จนทำให้ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปถึงสาเหตุที่นายอับดุลเลาะ หมดสติในขณะถูกควบคุม ด้านภรรยา และครอบครัวของนายอับดุลเลาะ ได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรมไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ที่ จ.ยะลา ก่อนที่นายอับดุลเลาะ จะเสียชีวิตดังกล่า
นายโมฮำมัดรอฮมัด มามุ ญาติของนายอับดุลเลาะ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะติดตามคดีนี้ถึงที่สุดในเรื่องข้อเท็จจริง ในคดีนี้
นอกจากนั้นจะติดตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่ส่งไปหลายหน่วยงาน ทั้งคณะกรรมการ ของกอ.รมน.ที่แต่งตั้ง และศูนย์ทนายความมุสลิม คณะกรรมการสิทธิ์ และนายกรัฐมนตรี ซึ่งองค์กรเหล่านี้เงียบหมด หลังจากทำพิธีศพ ก็จะหารือครอบครัวและจะเร่งติดตามคดีทันที
นายโมฮำมัดรอฮมัด มามุเปิดเผยอีกว่าการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะนั้นเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัวเพราะผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัวในการดำเนินชีวิต
