ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 กันยายน เพจเฟซบุ๊ก “ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม” ของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ก่อนหน้าออกมาระบุว่า ในเวลา 20.00 น.วันที่ 23 กันยายน จะมีการออกมาแฉข้อมูลสำคัญนั้น ปรากฏว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 กันยายน ได้ออกมาโพสต์ข้อความ
โดยระบุว่า “ระหว่างรอเวลา 20.00 น. มาอ่านนิทานรอเวลากันก่อน เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่จะถูกเอามาพูดถึงคืนนี้ เพราะฉะนั้นตั้งนาฬิกาปลุกและเตรียมป็อปคอร์นไว้ได้เลย วันนี้ยาวแน่นอน
เก่ง กับฟ็อกซ์ เป็นเพื่อนรักกัน ด้วยความรักเพื่อนของเก่ง ที่เห็นฟ็อกซ์อยากเป็นนักการเมืองท้องถิ่น จึงได้ร่วมกันก่อตั้งองค์กรขึ้นมาองค์กรหนึ่ง เก่งเป็นคนดี เป็นคนเก่งสมชื่อ มีอุดมการณ์ และมีคุณธรรม วันหนึ่งเก่งเห็นฟ็อกซ์ทำผิดศีลข้อกาเมฯ เก่งก็เลยตักเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี แต่หารู้ไม่ว่าฟ็อกซ์ไม่พอใจเก่ง ทำให้วันนั้นทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เก่งเลยตัดสินใจออกและเลิกทำองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นร่วมกับฟ็อกซ์ กลับมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักด้วยการตั้งทีมฟุตบอลขึ้น ทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่แล้วเก่งกลับถูกชายนิรนามใช้ไม้ตีที่ศีรษะจนหัวแตก น่าแปลกใจเหมือนกันที่เก่งไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน
ถึงเก่งจะหัวแตกแบบจับมือใครดมไม่ได้ แต่เรื่องก็ไม่ได้จบลงเท่านี้ ในวันที่ 13 เม.ย. 60 วันสงกรานต์ที่ใครๆ ต่างก็กลับไปมีความสุขกับครอบครัว แต่กลายเป็นวันที่เก่งต้องสิ้นสุดอิสรภาพ เพราะมีเจ้าหน้าที่มาขอตรวจค้นยาเสพติดในบ้าน แล้วเก่งก็อยู่ในบ้าน น่าแปลกที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้มีความสามารถประหนึ่งมีตาทิพย์ รู้ว่ามียาไอซ์ซ่อนไว้ในชักโครกเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วหลังบ้าน และบ้านหลังนี้นอกจากเก่งแล้วก็มีฟ็อกซ์ที่รู้จักบ้านเก่งทุกซอกทุกมุม เก่งกลายเป็นนักโทษในเรือนจำทันทีตั้งแต่วันนั้น เพื่อนของเก่งทุกคนที่รู้จักเก่งดี ก็ผลัดเปลี่ยนกันมาเยี่ยมและให้กำลังใจ เว้นแต่เพื่อนรักที่สุดของเก่งคือฟ็อกซ์ ที่มาเยี่ยมพร้อมถ้อยคำเยาะเย้ยเหยียดหยาม แถมยังข่มขู่ว่ามึงต้องติดคุกไม่รอดแน่นอน จริงดังคำฟ็อกซ์ว่า ศาลชั้นต้นตัดสินให้เก่งแพ้ และถูกจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากมีนักโทษคนหนึ่ง (จำนักโทษคนนี้ไว้) มาเบิกความซัดทอดว่าเก่งเป็นคนขายยาทั้งที่เก่งกับนักโทษคนนี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หลังจากเหตุการณ์นี้เก่งตัดสินใจยอมแพ้ ไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อเพราะรู้แล้วว่าสู้ไปก็ไม่ชนะแน่ๆ
เก่งยอมรับชะตากรรมของตัวเองเงียบๆ ด้วยข้อสงสัยมากมาย เช่น ใครเป็นคนแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจค้น ทำไมเจ้าหน้าที่รู้ว่ายาไอซ์ซ่อนอยู่ตรงไหน (เชื่อเถอะว่าจริงๆ เก่งเองก็รู้) และแล้วความจริงก็มาเปิดเผยภายหลังว่า ฟ็อกซ์เป็นตัวการทั้งหมด โดยฟ็อกซ์ได้ผลประโยชน์ในเรื่องนี้ถึง 2 ต่อ คือ
1.ฟ็อกซ์ได้กำจัดเพื่อนที่ขัดใจ และขัดในการประพฤติผิดศีลข้อ 3
2.ฟ็อกซ์ได้รายได้จากการช่วยเหลือนักโทษ (คนที่มาเบิกความซัดทอดเก่ง) เป็นจำนวนเงิน 6 แสนบาท โดยนักโทษคนนั้นก็ได้ลดโทษด้วย เพราะช่วยขยายผลจับเครือข่ายยาตัวใหญ่ (ในที่นี้หมายถึง เก่ง)
เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้ บุคคลในเรื่องนี้ไม่มีตัวตนจริง เป็นเพียงนิทานเล่าขานสนุกๆ ระหว่างรอเวลาเท่านั้น
