มีอะไรแปลกใหม่บน Huawei Mate 20 Series ให้เห็นมากมาย หนึ่งในนั้นที่โดดเด่นเลย ก็คือทางค่ายตัดสินใจที่จะใช้ NM Card หรือ Nano Memory Card มาแทนที่ microSD Card ที่ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมืองมากว่า 15 ปี ซึ่งกลายเป็นว่า ถ้าใครตัดสินใจมาใช้ Mate ซีรีย์ใหม่นี้ คงต้องบอกลา ทิ้ง microSD เก่าไปโดยปริยาย
แล้ว Nano Memory Card ดีกว่า microSD Card ยังไงบ้าง?
อย่างแรกที่เห็นกันชัดๆ เลยก็คือขนาดของ NM Card เล็กกว่า microSD Card ถึง 45% โดยมีขนาดเท่ากับ nanoSIM เป๊ะๆ ซึ่งทำให้การดีไซน์ถาดใส่ซิมของสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นทำได้ง่ายขึ้น
นึกภาพถาดใส่ซิมของสมาร์ทโฟนในตลาดที่ผ่านมา ถ้าเป็นประเภทไฮบริด ที่ต้องเลือกระหว่าง 2 ซิม หรือ 1 ซิม 1 การ์ด เราจะเจอกับช่องใส่ซิมอันที่ 2 ที่ดีไซน์ให้เลือกใส่ microSD Card ได้ด้วย หรือถ้าเป็นถาดซิมแบบ 2 ซิม 1 การ์ดเลย ถาดซิมก็จะมี 3 ช่อง ซึ่งกินพื้นที่อยู่ไม่น้อย แต่ถ้าเป็นระบบ NM Card ก็จะประหยัดพื้นที่ในการบรรจุถาดซิม ให้ไปใส่ฟังก์ชั่นอย่างอื่นเพิ่มเติม อย่างเช่น เอาพื้นที่ไปเพิ่มขนาดความจุของแบตเตอรี่แทนได้
อีกเรื่องคือความเร็วในการเขียนข้อมูล ถึงเราจะไม่รู้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับ NM Card แต่จากรูปที่หัวเว่ยได้เปิดตัวออกมา เราจะเห็นว่า NM Card ดังกล่าว มีความเร็วในการเขียนสูงถึง 90MB/s
ซึ่งเมื่อเทียบกับ microSD Card ทั่วๆ ไปแล้ว คลาสสูงๆ อย่างคลาส U3 ก็ยังมีความเร็วในการเขียนข้อมูลอยู่ที่ 30MB/s เท่านั้น ส่วนความเร็ว 90MB/s นั้นจะไปเท่ากับคลาส V90 ที่ใช้สำหรับถ่ายวีดีโอความละเอียด 8K เลยทีเดียว
ส่วนขนาดของการ์ดเท่าที่ทราบประกอบไปด้วย 128GB และ 256GB ซึ่งไม่ทราบว่าในอนาคตจะมีขนาดที่ใหญ่กว่านี้มารองรับหรือเปล่า? แต่เมื่อในตอนนี้ทางหัวเว่ยเป็นผู้ผลิตเอง ความจุก็น่าจะขึ้นอยู่กับขนาดสูงสุดที่สมาร์ทโฟนของค่ายรองรับได้ นั่นก็คือ 256GB นั่นเอง
สำหรับตอนนี้ ยังไม่มีข้อมูลมากมายสำหรับการ์ดความจำใหม่นี้ แต่ที่คาดเดาได้ก็คือราคาของ NM Card คงจะไม่ถูกกว่า microSD Card เป็นแน่แท้ (แต่จะราคาสูงแค่ไหนก็ยังไม่ทราบ) ด้วยความที่หัวเว่ยเป็นผู้ผลิตเอง และซื้อมาก็ใช้ได้เพียงบน Huawei Mate 20 Series เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นในตอนนี้ และก็ยังไม่แน่ชัดว่าการ์ดความจำใหม่นี้ จะกลายเป็นเทรนด์ให้สมาร์ทโฟนเจ้าอื่นๆ เปลี่ยนไปใช้งานตามเหมือนอย่าง USB-C หรือไม่?
