วันนี้( 18 พ.ย. 62 )จากกรณีเกิดเหตุเศร้าสลดเมื่อเด็กหญิงวัย13 ปีตัดสินใจกระโดดตึกเสียชีวิตในพื้นที่สน.คลองตัน หลังพนักงานสอบสวนแพทย์เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุและทำการชันสูตรพลิกศพพร้อมส่งศพไปทำการชันสูตรโดยละเอียดที่สถาบันนิติเวชรพ.ตำรวจเพื่อหาสาเหตุการตายโดยละเอียดตามขั้นตอนของกฎหมายก่อนจะส่งมอบศพให้ญาติไปดำเนินการตามศาสนาและทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี
หลังจากนั้นทางมารดาของผู้ตายได้เข้าแจ้งความกรณีลูกสาวถูกแฟนหนุ่มกระทำชำเราโดยกักขังหน่วงเหนี่ยวลูกสาวในวันลอยกระทง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อทำความจริงให้ปรากฎและคลายข้อสงสัยในประเด็นต่างๆให้กับญาติผู้ตายและสังคม
ล่าสุดเมื่อเวลา11.00 น. ที่สน.คลองตัน พล.ต.ต. สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัยผู้บังคับการตำรวจนครบาล5 (ผบก.น. 5) ได้เข้าร่วมประชุมความคืบหน้าในคดีเด็ก13 กระโดดตึกเสียชีวิตโดยใช้เวลาประมาณ1 ชั่วโมง
โดยผบก.น.5 ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสินการประชุมว่าที่มาในวันนี้เพื่อประชุมเร่งรัดคดีให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วรวบรวมหลังฐานให้รัดกุมและให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดโดยในเบื้องต้นจากแนวทางการสวบสวนพบว่ามีผู้ต้องหารที่กระทำความผิดเพียงแค่2 รายซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำทางแม่ของผู้ตายและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีส่วนผู้ต้องหาที่ออกหมายจับคือนายกิติยะพงษ์ บุญถนัดซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ในข้อหา"มีเครื่องกระสุนไว่ในครอบครอง" และนายอานนท์โดรอเซะในข้อหา“ร่วมกันพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร"
ด้านมารดาของผู้ตายกล่าวได้ขอโทษกรณีข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับผู้ร่วมกระทำความผิดรวม5-6 คนเนื่องจากคุณแม่ถามน้องว่าในห้องมีกี่คนน้องตอบว่ามี5-6 คน คือที่น้องบอกมานั้นได้ร่วมบุคคลทั้งหมดที่อยู่ในห้องโดยมีผู้ชายสองคน เพื่อนผู้หญิงสองคนและแม่ของเขารวมทั้งตัวน้องเองก็เป็น5-6 คนแต่น้องไม่ได้บอกว่าโดนรุมโทรม5-6 คนก็ขอแก้ข่าวต่อสื่อมวลชนไว้ตรงนี้เลยว่า"น้องไม่ได้โดนรุมโทรม" แต่ถูกก่อเหตุกระทำชำเราจริงซึ่งจากการตรวจร่างกายผลปรากฏว่ามีร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศส่วนทางเพื่อนของบุตรสาวที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไรเกี่ยวกับคดี