วันที่ 17 ก.ค. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังถูกคนร้ายมอมยาแล้วขืนใจ ในอาคาร บริเวณบ้านศรีฐาน เขตเทศบาลนครขอนแก่น ที่กำลังมีการก่อสร้างเป็นหอพัก ก่อนจะออกมาขอความช่วยเหลือ โบกรถส่งน้ำแข็งให้ไปส่งที่หอพัก
น.ส.เอ เล่าว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ออกไปฉลองงานวันเกิด น.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี เพื่อนรุ่นพี่ โดยมีเพื่อนหญิงชื่อ น.ส.มด (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี มารับที่หอพักของตน จากนั้นได้ไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณถนนกลางเมือง-ชีท่าขอน เขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อไปถึงร้าน พบว่ามีเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คน คือ น.ส.ดุ๋ย และ น.ส.แอ๋ม นั่งอยู่ภายในร้าน จากนั้นตนและเพื่อนอีก 3 คน ได้นั่งดื่มอยู่ภายในร้านจนถึงเวลาประมาณ 24.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ร้านปิด ตนจึงให้ น.ส.มด ขี่รถจยย.ไปส่งที่สถานบริการแห่งหนึ่ง บริเวณถนนประชาสำราญ ซึ่งอยู่ห่างจากร้านที่ตนและเพื่อนฉลองวันเกิดประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อไปเที่ยวต่อกับกลุ่มเพื่อนผู้ชาย
เมื่อไปถึงที่สถานบริการดังกล่าว ซึ่งมีเพื่อนชายซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันนั่งดื่มอยู่ก่อนแล้ว ทราบชื่อเล่นคือ นายเอ้, นายอั๋น, นายเอก และชายอีกหนึ่งคนที่ไม่ทราบชื่อ เมื่อเดินไปที่โต๊ะตนได้นั่งดื่มกับกลุ่มชายดังกล่าว ประมาณ 30 นาที โดยระหว่างนั่งดื่มตนได้ชงเหล้าดื่มเอง กระทั่งรู้สึกว่าเมามากจึงลุกออกจากโต๊ะเพื่อจะกลับห้องพัก แต่เมื่อเดินออกมาหน้าร้านตนก็ไม่ได้สติและจำอะไรไม่ได้
กระทั่งมารู้สึกตัวอีกครั้งในเช้าของวันต่อมา ซึ่งพบว่าตนได้นอนอยู่ภายในอาคารดังกล่าวในสภาพร่างกายเปลือยเปล่า มีเสื้อผ้ากองอยู่ข้าง นอกจากนี้แหวนทองคำน้ำหนัก 1 สลึง และนาฬิกาข้อมือยี่ห้อเกรช สีทอง ได้หายไป เมื่อรวบรวมสติได้จึงรีบสวมเสื้อผ้าแล้วออกจากจุดเกิดเหตุ ขอยืมโทรศัพท์มือถือจากร้านจำหน่ายหีบศพเพื่อโทรเข้าโทรศัพท์มือถือของตนที่ฝากไว้กับเพื่อน แต่ก็ไม่มีใครรับสาย จึงโบกรถส่งน้ำแข็งที่วิ่งผ่านเพื่อขอให้ไปส่งที่หอพัก โดยบอกกับคนขับรถส่งน้ำแข็งว่าถูกชิงทรัพย์
เมื่อกลับมาถึงห้องพักจึงแจ้งให้กับเพื่อนๆ ทราบ ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความ เนื่องจากตนไม่มั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนถูกมอมยาแล้วถูกพามากระทำชำเราหรือไม่ และผู้ที่ก่อเหตุเป็นใคร จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหายและเพื่อนหญิงของผู้เสียหาย พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยยังไม่ยืนยันว่าเป็นการถูกล่อลวงไปกระทำชำเราหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
