ฤดูขายส่งท้ายปลายปีนี้ สำหรับธุรกิจอสังหาฯ มีบรรยากาศที่คึกคักมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบรรยากาศการเร่งขายเร่งโอน ก่อนมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2562 ทำให้โครงการอสังหาริมทรัยพ์ต่างพากันเร่งขายเร่งโอนมากเป็นพิเศษ
DDproperty เว็บไซต์สื่อกลางซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด 49% ออกมายืนยันแนวโน้มดังกล่าวด้วยเช่นกัน สะท้อนภาพรวมตลาดอสังหาฯแข่งขันสูง หลังจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมาตลาดชะลอตัวไประยะหนึ่ง โครงการเปิดใหม่เร่งเปิดในช่วงปลายปี และโครงการต่อเนื่องต่างเร่งขายเร่งโอน ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2562
นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย DDproperty.com กล่าวว่าในปี 2562 ช่วงไตรมาสแรกจะยังคงเห็นการทำตลาดแบบเร่งขายเร่งโอน กันอย่างคึกคักเพื่อไม่ต้องเข้าเกณฑ์มาตรการของธปท. ที่กำหนดให้ลูกค้าต้องวางเงินดาวน 10-30% สำหรับการซื้ออสังหาฯหลังที่สอง และสาม ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคต้องปรับตัว
คาดตลาดคึกคักสิ้นปี-ไตรสมาส *1/2562 *
ความคึกคักตลาดจะเกิดในช่วงปลายปี 2561 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาสแรก ปี 2562 หลังจากนั้นเชื่อว่าตลาดอสังหาฯจะชะลอตัว ผู้ประกอบการต้องวางแผนการตลาดใหม่ ให้สอดรับกับมาตรการของธปท. ในขณะที่ผู้ซื้อบ้านเองก็ต้องปรับพฤติกรรม วางแผนออมเงินก่อนการซื้อบ้านมากขึ้น เชื่อว่าตลาดคงต้องปรับตัวสักระยะหนึ่ง กว่าที่จะคุ้นเคยและบริหารได้ตามมาตรการข้อกำหนดของธปท.
สำหรับอุปทานใหม่ที่เข้าสู่ตลาดในปี 2562 จะยังคงแข่งขันกันด้วยนวัตกรรม ส่วนรูปแบบโครงการจะเห็นภาพการพัฒนาโครงการสำหรับผู้สูงอายุมากขึ้น ตอบรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และโครงการรูปแบบมิกซ์ยูส (Mixed-use) โดยเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมือง เนื่องจากราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น และเป็นการสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว ให้กับผู้ประกอบการ
รวมถึงจะมีแนวโน้มการร่วมมือกันพัฒนาโครงการในแบบ Joint Venture ที่นำจุดเด่นของแต่ละบริษัทมาช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับโครงการ และเป็นการลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ มากขึ้นทั้งความร่วมมือในบริษัทไทยด้วยกัน และกับบริษัทอสังหาฯต่างชาติ
อสังหาฯพรีเมียมราคาเกิน *15 ล้านยังมาแรง *
โดยสินค้าอสังหาฯที่คาดว่าจะเปิดตัวมาขึ้นในปี 2562 คาดว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าระดับพรีเมียม ราคาเกินกว่า 15 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นฐานตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ หรือมาตรการเข้มงวดของธปท. ในขณะที่สินค้าอสังหาฯ ในระดับต่ำกว่า 15 ล้านบาทลงมา ตลาดอาจยังมีปัญหาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ และภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังมีสูง
สำหรับรายงานแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2562 หรือ DDproperty Property Market Outlook 2019 เผยว่าในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2562 คาดว่าตลาดจะมีความคึกคักต่อเนื่องไปจากช่วงปลายปีนี้จากการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ก่อนจะปรับตัวเพื่อรับมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป
โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับผู้ที่ผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกัน 2 หลังขึ้นไป รวมไปถึงผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10-30%
ทั้งนี้ ในปี 2562 คาดว่าผู้ประกอบการจะยังคงพัฒนาโครงการในตลาดระดับไฮเอนด์ไปจนถึงลักซ์ชัวรี่ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการของ ธปท.แต่ยังเป็นกลุ่มที่กำลังซื้อ
ส่วนตลาดอสังหาฯ ระดับล่าง (ต่ำกว่า 3 ล้านบาท) คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างช้า ๆ เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อในเซ็กเมนต์ดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมไปถึงภาวะหนี้ครัวเรือนที่แม้จะเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะระมัดระวังในการเลือกทำเลเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ มากขึ้น โดยจะให้ให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่มีอุปสงค์สูง รวมทั้งหันมาพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์มากกว่าซื้อเพื่อเก็งกำไร ภายใต้นโยบายของธนาคาร/สถาบันการเงินที่มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น
นอกจากนี้ โครงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคม ทั้งสถานีกลางบางซื่อ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายต่าง ๆ และมอเตอร์เวย์ ทำให้การเดินทางออกสู่ชานเมือง และต่างจังหวัดทำได้สะดวกขึ้น รวมถึงการพัฒนาพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยเสริมที่จะทำให้อุปสงค์และอุปทานกระจายออกไปยังพื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ จังหวัดปริมณฑล และจังหวัดทางภาคตะวันออกมากยิ่งขึ้น
*การเลือกตั้งกระทบตลาดระยะสั้น *
สิ่งที่น่าจับตา คือ การเลือกตั้งทั่วไปที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี 2562 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ของประเทศชะลอตัว เนื่องจากทุกฝ่ายต่างรอดูความชัดเจนด้านนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่อาจจะออกมาเพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาด แต่ทั้งนี้จะเป็นการชะลอตัวในช่วงสั้น ๆ
นอกจากนี้ เราจะเห็นว่าโครงการที่อยู่อาศัยหลายๆ แห่งมีการพัฒนาคอนเซ็ปต์สู่การเป็น Smart Home โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามาใช้ในระบบต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะระบบไฟฟ้า ระบบพลังงาน หรือระบบควบคุมอุณหภูมิ ที่ล้วนให้ความสะดวกสบายกับผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก
ด้วยเทรนด์ที่เปลี่ยนไป ทำให้ปัจจัยที่ผู้ซื้อบ้านในยุค 4.0 ใช้ในการพิจารณาซื้อไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องการออกแบบ และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบเดิมๆ แต่มองหาความแตกต่างที่ช่วยยกระดับการอยู่อาศัยให้ดีขึ้น โดยมองการณ์ไกลถึงอนาคตว่า “บ้าน” จะต้องเป็นมากกว่าแหล่งพักพิง เป็นสถานที่ที่ทำให้ชีวิตเติบโต พร้อมก้าวไปข้างหน้าได้อย่างทันโลกและสมบูรณ์แบบในทุกมิติ
ในส่วนของ DDproperty ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มสื่อกลาง สำหรับการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี ที่ตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ต้องการซื้อ-ขาย-เช่าบ้านอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะทั้งกลุ่มที่เป็นผู้ซื้อเรียลดีมานด์ กลุ่มนักลงทุน นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่กลุ่มเอเจ้นท์ เช่น การนำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) มาใช้ในเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น เพื่อนำเสนอเนื้อหาและบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคน ผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานบนเว็บไซต์
ปัจจุบันเว็บไซต์ DDproperty มีจำนวนฐานผู้เข้าชมและโพสต์กิจกรรมกับเว็บไซต์ 3 ล้านรายต่อเดือน มีเพจวิวประมาณ 13-14 ล้านเพจวิว/เดือน มีข้อมูลการโพสต์กว่า 1.8 แสนรายการ โดยฐานผู้ใช้เป็นกลุ่มคนอายุ 25-34 ปี มีส่วนแบ่งการตลาดเว็บอสังหาฯอยู่ที่ 49% สำหรับตลาดอสังหาฯไทย
70% ผู้บริโภคชี้ราคาอสังหาฯสูงเกินไป
จากฐานข้อมูลดังกล่าว DDproperty ได้ทำการสำรวจจากฐานลูกค้ากว่า 1,000 ราย พบว่ามีการใช้เว็บไซต์ในการหาข้อมูลเพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น และในจำนวนผู้เข้ามาค้นหาข้อมูลอสังหาฯในเว็บไซต์ DDproperty พบว่า 30% ตัดสินใจซื้อจริงหลังจากค้นหาและเปรียบเทียบข้อมูลแล้ว
นอกจากนี้ยังพบว่า ฐานลูกค้าที่จะเป็นผู้ซื้ออสังหาฯในอนาคต จะเป็นกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียล ช่วงอายุระหว่าง 25-35 ปี จะเป็นฐานตลาดใหม่ที่มีบทบาทในตลาดมากที่สุด ซึ่งพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ ที่อ่านได้จากฐานการสืบค้นอสังหาฯในเว็บไซต์ DDproperty พบว่า 45% มีแผนจะย้ายออกไปอยู่เองเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป 65% มีแผนเก็บเงินในแต่ละเดือน สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัย โดยราคาอสังหาฯที่กลุ่มมิลเลนเนียลจะซื้อได้ อยู่ในระดับราคา 1-4 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกลุ่มเริ่มต้นครอบครัวใหม่
นอกจากนี้ในการสำรวจความเห็นจากผู้บริโภค ผ่านเว็บไซต์พบว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า ราคาอสังหาฯปัจจุบันสูงกว่าที่ควรจะเป็น 61% บอกว่ารัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการอะไรที่จะส่งเสริมให้คนซื้อบ้าน และ 61% บอกว่ารู้สึกว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว โดยภาพรวมแล้วความพึงพอใจ ต่อภาคอสังหาฯปรับตัวลดลงจาก 61% มาอยู่ที่ 57%
สำหรับ DDproperty (ดีดีพร็อพเพอร์ตี้) เป็นเว็บไซต์สื่อกลางซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย โดยในแต่ละเดือน DDproperty ช่วยให้ผู้คนกว่า 3 ล้านคนในประเทศไทยได้ค้นหาและเป็นเจ้าของบ้าน DDproperty ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี ที่เป็นแพลตฟอร์มทางการตลาด อย่าง ePropertyTrack
อีกทั้งยังมีบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญ ๆ อาทิ สื่อสิ่งพิมพ์ การจัดงานและกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนรางวัลต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชันที่มีรางวัลการันตีคุณภาพถึง 4 รางวัลและรองรับการใช้งานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดกว่า 8 แสนครั้ง
DDproperty เป็นเว็บไซต์ในเครือ PropertyGuru Group (พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ชั้นนำของเอเชีย จากประเทศสิงคโปร์
