คอลัมน์ สามัญสำนึก โดย สมถวิล ลีลาสุวัฒน์
วันก่อนแหวกจราจรที่เริ่มติดขัดแบบโลกใบเก่าไปพระราม 9 คุยเรื่องวงในอสังหาฯที่กำลัง “สำลัก” ซัพพลาย
เพราะ “กำลังซื้อ” อ่อนแอเกินเยียวยา
แม้โควิด-19 ยังไม่มา อสังหาฯก็ขายยากอยู่แล้ว
ยิ่งมาเจอ LTV (loan to value) นโยบายแบงก์ชาติที่คุมเข้มสินเชื่อและระดับวงเงินปล่อยกู้ น้ำตาจัดสรรก็ไหลริน ยังไม่ทันเหือดแห้ง ศัตรูที่มองไม่เห็นอย่างไวรัสโควิดก็กระหน่ำซ้ำไม่ทันตั้งตัว
ตลาดที่กำลังจะวาย ก็เลยวอด เข้าขั้นโคม่าแอนด์ช็อก !
น่าเห็นใจผู้ประกอบการน้ำดี เสียภาษีตรงไปตรงมา และน่าสงสารผู้บริโภคคนไทยอีกจำนวนมากที่ต้องการซื้อบ้านหรือมีบ้านเป็นของตัวเอง
เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจพลิกผัน ทุกคนต้องเพลย์เซฟ
เพราะไม่มั่นใจและไม่มีความหวัง
ทำให้ไม่มีใครกล้าขยับลงทุน เพราะกำลังเริ่มถดถอย
บริษัทอสังหาฯต้องคิดใหม่และปรับตัวเองอย่างถึงที่สุด
ตามสูตรเบสิก “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้”
การเพิ่มเงินเดือน แจกโบนัส ทำโอที ลืมไปได้เลย
ทุกค่ายต้องพลิกกระบวนท่า หาตลาด หาคนซื้อ อัดแคมเปญ โปรโมชั่นแรง ๆ แบบของจริง คือ ลดจริง แจกจริง
ไม่ใช่ประกาศลดปาว ๆ แบบ“มายาการตลาด”
ใครหลง ใครเพ้อ ก็ไปต่อราคากันอีกทีก่อนทำเรื่องโอน
จากมาตรการแก้ปัญหาให้ตัวเอง ด้วยการเคลียร์สต๊อก ลดซัพพลายสินค้าในมือแล้ว
ล่าสุด บิ๊กอสังหาฯ (ยังไม่ขอเอ่ยนาม) หลาย ๆ บริษัทเริ่มมาตรการขั้นเด็ดขาด
ด้วยการ “หยุด” ซื้อที่ดิน
ชะลอการพัฒนา เพื่อหลีกทางให้ “วิกฤต” ผ่านพ้น
เพราะไม่มีกฎบังคับเหมือนสมัยก่อนที่ต้องตุนแลนด์แบงก์ไว้ 5 ปี
บริษัทไหนที่เคยเร่งเครื่องย่ามใจเหมาซื้อที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้
เริ่มนอนไม่หลับแล้ว
พร้อมตัดสินใจ “เทขาย” ออกมาขายแข่งในตลาด
จะขายราคาเท่าเดิมหรือถูกลง ยังไม่มีใครคอนเฟิร์ม
ถือเป็นการตัดสินใจแบบหักด้ามพร้าด้วยเงินสด
เพราะธุรกิจไม่มีอะไรแน่นอน
การเฉือนอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต
กำลังเป็น “ทางออก” ยอดฮิต
โดยไม่มีใครเป็นบุญคุณใคร
เจ้าของที่ดินและนายหน้าเล่นบทรวยกันเพลินมานานแล้ว
ราคาที่ดินมีแต่ “ดีดขึ้น ดีดขึ้น”
ทำให้ “ต้นทุน” ต่อหน่วยกลับตาลปัตร
บ้านหรือคอนโดฯจึงตั้งราคาขายที่สูงขึ้น หลังพัฒนาแล้ว
ปัญหา “บ้านแพง คนเอื้อมไม่ถึง” จึงถูกทุบด้วย LTV
หลังใช้มาตรการไปเมื่อ 1 มิถุนายน 2562 จนถึงวันนี้
สัญญาณการเก็งกำไรเริ่มลดลง ราคาบ้านก็ปรับลดลงด้วย
มีคอนโดฯในเมืองแท่งหนึ่ง ติดแบรนด์ท็อปไฟฟ์ เคยตั้งราคาขายที่ 12 ล้าน มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
มาเจอพิษโควิด หั่นราคาลดฮวบเหลือแค่ 7 ล้านกว่า ขยันขายทั้งออฟไลน์-ออนไลน์
ยังขายไม่ได้เลย !!!
เซลส์โครงการน้ำตาตกในมาก รอยยิ้มมีแต่ความทุกข์
แล้วถ้าเป็นเจ้าของโครงการล่ะ นึกภาพไม่ออกจริง ๆ
อีกกระแส อสังหาฯรายบิ๊กบึ้มกำลังบอกขายที่ดินแปลงใหญ่ย่านแฮปปี้แลนด์-บางกะปิ
จากความฝันที่จะทำโครงการขนาดใหญ่ ต้อนรับรถไฟฟ้าสายใหม่ ต้องหยุดไปพักใหญ่
เนื่องจากปัจจัยไม่เอื้อด้วยประการทั้งปวง
การฝืนธรรมชาติ ฝืนกำลังซื้อ ฝืนสิ่งแวดล้อม
ไม่ดีต่อใครทั้งสิ้น ทั้งนักธุรกิจ หรือผู้บริโภค
จึงไม่แปลกใจเลยที่เห็นการปักป้าย แห่ขายที่ดิน-ขายตึกแถวอย่างเกลื่อนกลาดในทุกทำเลที่ผ่าน
ขณะที่ “รถไฟฟ้า” ก็เร่งก่อสร้างไปตามไทม์ไลน์
ตราบใดที่ “ดีมานด์” ยังไม่มา
“ซัพพลาย” ต้องทำใจให้หนัก ๆ
หวังแต่รัฐบาลบิ๊กตู่จะกู้ชีพให้ออกซิเจนคนไทยได้ทัน
