วันนี้ (24ก.ค.62) จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และลามถึงเศรษฐกิจไทย ที่ปีนี้ปรับลดจีดีพีเหลือ3.8% ส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกหดตัว ติดลบมากกว่า10% เนื่องจากตกอยู่ในภาวะสินค้าล้นตลาด โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ส่วนตลาดคอนโดมิเนียม ยังเป็นที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนและผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย โดยครึ่งปีแรกมียอดขายที่26,680หน่วย แต่อยู่ในสัดส่วนที่ลดลง เมื่อกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่19.6% หลังกำลังซื้อของผู้บริโภคหดตัว จากภาวะเศรษฐกิจซบเซา เร่งรัฐบาลกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนและผู้บริโภค
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์วิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บอกว่า มาตราการคุมเข้มปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่หรือLTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลต่อกลุ่มผู้ซื้อเพื่อเกร็งกำไรลดลง โดยเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่จากจีนและญี่ปุ่น แนะรัฐบาลควรเพิ่มมาตราการคุ้มครองเงินดาวน์ให้แก่ผู้ซื้อเพื่อสร้างความมั่นใจและเอื้อประโยชน์ในการลงทุน
สำหรับสัดส่วนหนี้ครัวเรือนยังสูง ส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อรายย่อย ซึ่งกระทบต่อการปล่อยโครงการเก่าที่ยังคงค้างอยู่ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมครึ่งปีแรก ยอดขายรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน56,080หน่วย ลดลงจากปีก่อนที่ขายได้ราว 110,000หน่วย จึงประเมินว่า ตลอดทั้งนี้ยอดขายจะติดลบถึง16% แม้ผู้ประกอบการจะมีการปรับตัวชะลอการเปิดโครงการใหม่แล้วในปีนี้ และหันมาจัดแผนการตลาดแบบ ลด แลก แจก แถม เพื่อปล่อยตัวโครงการเก่า โดยเฉพาะโครงการที่เสร็จแล้วพร้อมอยู่