สมบัติงดงามจากเปอร์เซียมาอวดตัวให้ชม อย่างพรมเปอร์เซียที่มีอายุเกือบศตวรรษ มูลค่า 10 ล้านบาท และแกรนด์เปียโนเกือบศตรวรรษครึ่ง (147 ปี) 10 ล้านบาท ในงาน Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019 (แบงค็อก เปอร์เซีย คาร์เปต เอ็กซิบิชั่น 2019) ให้คนชอบของสะสมไปเยี่ยมชมฟรี
สมบัตินั้นพลัดกันชมได้ ถ้าเจ้าของเขาไม่หวง คนชมรู้คุณค่าและความหมาย จึงเกิดเป็นงานนิทรรศการชื่อ Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019 ภายใต้ธีม Persian Carpet and Your Lifestyle เพื่อสะท้อนถึงความรักและหลงใหลในการสะสมของโบราณ อย่างเฉพาะพรมเปอร์เซียที่มีประวัติถือกำเนิดมานานกว่า 2,500 ปี นำมาร้อยเรียงเรื่องราวผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ให้เข้ากับการสะสม ของเก่าบนพื้นฐานความรักในพรม เปียโน สู่ห้องนิทรรศการถึง 8 ห้อง
จิตรกร มงคลธรรม นักสะสมชาวไทยกับพรมเปอร์เซียผืนไฮไลท์ จากตระกูล Amoghli (อะมอกรู)
จุดเด่นของงานนี้ที่นับเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด กับการชมพรมเปอร์เซียขนแกะจากตระกูล Amoghli (อะมอกรู) ที่จัดแสดงในห้อง Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019 ที่ดีไซน์และผลิตพรมให้กับพระราชวังของอิหร่าน ในช่วงปี ค.ศ. 1920-1930 ยุครุ่งเรืองของกษัตริย์ Reza Shah แห่งจักรวรรดิเปอร์เซีย
พรมเปอร์เซียผืนไฮไลท์ จากตระกูล Amoghli (อะมอกรู) ที่ดีไซน์และผลิตพรมให้กับพระราชวังของอิหร่าน ในช่วงปี ค.ศ. 1920–1930 ยุครุ่งเรืองของกษัตริย์ Reza Shah แห่งจักรวรรดิเปอร์เซีย
โดยใช้วัสดุเป็นขนสัตว์ชั้นดีที่ย้อมสีธรรมชาติ ออกแบบลวดลายในสไตล์เอกลักษณ์อิหร่าน ในโทนสีสดใสสว่างงดงาม คือ สีครีมเป็นสีพื้นฐานตัดกับสีฟ้าอ่อนและตัดขอบด้วยสีแดง
บริเวณตรงกลางด้านล่างขอบพรม คือลายเซ็นของ Amoghli ผู้ผลิตพรม ซึ่งเป็นตระกูลท็อป 3 ของอิหร่านที่ผลิตพรมที่มีชื่อเสียง
นอกจากนี้ ยังมีลายเซ็นของ Amoghli ผู้ผลิตพรม ซึ่งเป็นตระกูลท็อป 3 ของอิหร่านที่ผลิตพรมที่มีชื่อเสียง โดยปัจจุบันไม่มีดำเนินการแล้ว จึงทำให้พรมผืนนี้เป็นพรมที่ล้ำค่าและมีสนนราคาที่สูงมากถึง 10 ล้านบาท โดยพรมทรงคุณค่าผืนดังกล่าวนี้ถูกนำออกมาขายหลังจากเกิดการปฏิวัติในอิหร่าน และไปตกในร้านสะสมของเก่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย วิคเตอร์ โบลลิเกอร์ นักการธนาคารชาวสวิสวัยเกษียณที่พำนักในไทย ได้ซื้อมาสะสมเมื่อ 15 ปีก่อน ปัจจุบันพรมผืนนี้มีนักสะสมชาวไทย จิตรกร มงคลธรรม ร่วมถือครอบครองด้วย
แกรนด์ เปียโน คลาสิก เปียโน custom made ผลิตโดย Steinway and Sons ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ติดอันดับท็อป 3 ของโลก
อีกหนึ่งไฮไลต์ชิ้นต่อมาที่ต้องชมให้ได้กับ แกรนด์ เปียโน คลาสิก เป็น custom made ผลิตโดย Steinway and Sons ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ติดอันดับท็อป 3 ของโลก เป็นของนักสะสมชาวไทย โดยเปียโนดังกล่าวมีอายุ 147 ปี มูลค่าร่วม 10 ล้านบาท และมีหลังเดียวในไทย
ความงดงามของ แกรนด์ เปียโน คลาสิก สร้างขึ้นจากไม้โรสวู้ดในศิลปะยุคโกธิค มีผ่านทวยเทพและสัตว์ในตำนานอย่างมังกร ตกแต่งแกะสลักอยู่ที่ขาเปียโนทั้ง 4 ด้าน และที่คีย์เปียโนทำจากงาช้าง
เปียโนหลังยักษ์จัดแสดงในห้อง Antique Grand Piano Room ด้วยความงดงามวิจิตรบรรจงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างขึ้นจากไม้โรสวู้ดในศิลปะยุคโกธิค ผ่านทวยเทพและสัตว์ในตำนานอย่างมังกร ซึ่งถูกตกแต่งแกะสลักอยู่ที่ขาเปียโนทั้ง 4 ด้าน นอกจากนี้ที่คีย์เปียโนทำจากงาช้าง
ห้อง Ancient Textiles Room ที่จัดแสดงถึงความสัมพันธ์พรมเปอร์เซียหัตถศิลป์ล้ำค่าแถบตะวันออกกลางและผ้าโบราณทรงคุณค่าแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ไม่เพียงเท่านี้ยังมีห้อง Ancient Textiles Room ที่จัดแสดงถึงความสัมพันธ์พรมเปอร์เซียหัตถศิลป์ล้ำค่าแถบตะวันออกกลางและผ้าโบราณทรงคุณค่าแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในด้านดีไซน์และจินตนาการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเชื่อ ความศรัทธาในเทพยดาฟ้าดิน ตลอดจนกรรมวิธีการถักทอด้วยมือและสีย้อมจากธรรมชาติ
ห้อง Hi-end Audio Room ที่นำพรมเปอร์เซียทรงคุณค่ามาตกแต่งร่วมกับเครื่องเสียงคุณภาพมูลค่าหลักล้าน
ห้อง Motorbike Room ที่นำพรมเปอร์เซียมาตกแต่งคู่กับมอเตอร์ไซต์คันหรู
นอกจากนั้นในงาน ยังมีห้องนิทรรศการที่น่าสนใจให้ชม อาทิ ห้อง Hi-end Audio Room ที่นำพรมเปอร์เซียทรงคุณค่ามาตกแต่งร่วมกับเครื่องเสียงคุณภาพมูลค่าหลักล้าน เช่นเดียวกับห้อง Motorbike Room ที่นำพรมเปอร์เซียมาตกแต่งคู่กับมอเตอร์ไซต์คันหรู
ห้อง Models Room ที่เปิดโอกาสให้ผู้มาร่วมงานได้โพสต์ท่าถ่ายรูปเป็นนางแบบนายแบบกับพรมเปอร์เซียผืนสวย
ห้อง Furniture Room ที่นำความคลาสิกของพรมเปอร์เซียมาตกแต่งร่วมกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์สุดโมเดิร์นได้อย่างลงตัว และยังมีห้อง Models Room ที่เปิดโอกาสให้ผู้มาร่วมงานได้โพสต์ท่าถ่ายรูปเป็นนางแบบนายแบบกับพรมเปอร์เซียผืนสวย รวมถึงห้อง Celebrity Carpets Room ที่รวบรวมพรมเปอร์เซียผืนสวยให้ผู้มาร่วมงานได้จับจองเป็นเจ้าของ
งานทุกชิ้นจัดแสดงตั้งแต่วันนี้-24 พ.ย. 62 ณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก โดย Art on da Floor (อาร์ต ออน เดอะ ฟลอร์) คอมมิวนิตี้ของเหล่าคอลเล็กเตอร์ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก นำของสะสมที่เป็นเหมือนงานศิลปะมาจัดแสดง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ไปสู่การสร้างมูลค่าในเชิงธุรกิจ
