โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

อย.เร่งเก็บยาความดัน 5 ตำรับทำลาย

new18

อัพเดต 16 ก.ค. 2561 เวลา 09.17 น. • เผยแพร่ 16 ก.ค. 2561 เวลา 09.15 น. • new18
อย.เร่งเก็บยาความดัน 5 ตำรับทำลาย
อย. แถลงเรียกคืน “ยาวาลซาร์แทน” รักษาโรคความดันโลหิตสูง 5 ตำรับออกจากท้องตลาดเพื่อทำลาย หลังพบสารก่อมะเร็งในวัตถุดิบการผลิต ชี้เป็นยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ผู้ป่วยทุกสิทธิจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หากใช้ยาในบัญชีแล้วไม่ได้ผลจึงจะจ่ายยาตัวนี้ เผยปี 2561 อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลการผลิตจากบริษัท คาดรู้ผลภายใน 2 สัปดาห์ พบปี 2560 จ่ายยาชนิดนี้ 6 ล้านเม็ดจาก 30 ล้านเม็ด

*อย. แถลงเรียกคืน “ยาวาลซาร์แทน” รักษาโรคความดันโลหิตสูง 5 ตำรับออกจากท้องตลาดเพื่อทำลาย หลังพบสารก่อมะเร็งในวัตถุดิบการผลิต ชี้เป็นยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ผู้ป่วยทุกสิทธิจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หากใช้ยาในบัญชีแล้วไม่ได้ผลจึงจะจ่ายยาตัวนี้ เผยปี 2561 อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลการผลิตจากบริษัท คาดรู้ผลภายใน 2 สัปดาห์ พบปี 2560 จ่ายยาชนิดนี้ 6 ล้านเม็ดจาก 30 ล้านเม็ด *

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการ อย. พร้อมด้วย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. แถลงถึงการเรียกคืนยาวาลซาร์แทน (Valsartan) รักษาโรคความดันโลหิตสูง 5 ตำรับที่ตรวจพบสารก่อมะเร็งในวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตยาออกจากท้องตลาด ประกอบด้วยเป็นของบริษัท สีลมการแพทย์ จำกัด 2 ทะเบียนตำรับ ได้แก่ 1.ยาVALATAN 80 ทะเบียนตำรับยาเลขที่ 1A 9/54 (NG) 2. ยาVALATAN 160ทะเบียนตำรับยาเลขที่ 1A 10/54 (NG) และ ของบริษัท ยูนีซัน จำกัด มี 3 ทะเบียนตำรับ ได้แก่ 1.ยาVALSARIN 80 ทะเบียนตำรับยาเลขที่ 1A 4/60 (NG) 2. ยาVALSARIN 160ทะเบียนตำรับยาเลขที่ 1A 5/60 (NG) และ 3.ยาVALSARIN 320ทะเบียนตำรับยาเลขที่ 1A 6/60 (NG)

นพ.วันชัย กล่าวว่า กรณีนีเกิดขึ้นจากบริษัทผู้ผลิตยาในยุโรปมีการตรวจสอบพบว่ามีสารก่อมะเร็งในหนูทดลอง จึงได้ประกาศเก็บยาดังกล่าวออกจากท้องตลาด และแจ้งเตือนไปยังเครือข่าย อย.ทั่วโลก อย.ไทยก็ได้รับแจ้งและดำเนินสั่งเก็บออกจากท้องตลาดภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อนำมาทำลาย อย่างไรก็ตาม เราไม่จำเป็นต้องตรวจสอบซ้ำ ส่วนประชาชนที่รับประทานยาตัวนี้อยู่สามารถนำไปเปลี่ยนคืนที่ รพ.ตามสิทธิได้ แต่ระหว่างที่รอการเปลี่ยนยายังสามารถกินยาตัวเดิมนี้ได้อยู่ หากกังวลว่ายาที่กินเข้าไปก่อนหน้านี้จะมีผลกระทบหรือไม่สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้หากมีหลักฐานเชิงประจักษ์ อย่างไรก็ตามไม่อยากให้กังวลมากเพราะส่วนหนึ่งของการตรวจพบสารก่อมะเร็งในหนูทดลอง ยังไม่พบการเกิดโรคในคน

นพ.สุรโชค กล่าวว่า ยาวาลซาร์แทนเป็นยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ดังนั้นผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษาจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะการให้ยารักษาโรคความดันจะต้องจ่ายยาที่อยู่ในบัญชียาหลักก่อนเป็นตัวแรก เช่น ยาลอซาร์แทน ( Losartan) หากใช้ยาในบัญชีแล้วไม่ได้ผลถึงจะจ่ายยาวาลซาร์แทนให้ ซึ่งในปี 2561 อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการผลิตจาก 2 บริษัท และรายงานการเก็บยาคืนจากท้องตลาด จะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ แต่จากข้อมูลการใช้ยารักษาโรคความดันโลหิตสูงในผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษาในปี 2560 รวม 30 ล้านเม็ด มีเพียง 6 ล้านเม็ดที่เป็นยาวาลซาร์แทน ซึ่งหากนับเป็นจำนวนคนแล้วก็ประมาณ 1-2 หมื่นคน ซึ่งได้ประสานไปยัง รพ.ต่างๆ จะมีรายชื่ออยู่ว่า ผู้ป่วยคนไหนบ้าง ให้แจ้งเตือนในการนำยามาคืน และให้ยาตัวใหม่แทน ทั้งนี้ขอเตือนว่าไม่ควรหยุดยาเพราะจะมีผลกระทบกับสุขภาพ อีกทั้งเป็นการเฝ้าระวัง ก็ต้องรอดูข้อมูลจากทั่วโลกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยข้อมูลการสำรวจสุขภาพประจำปีครั้งที่ 4 และครั้งที่ 5 ปี 2552 และ 2557 พบว่าความชุกของผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นจากประมาณร้อยละ 20 เป็นเกือบร้อยละ 25 หรือคิดเป็นจำนวน 13 ล้านคน ซึ่งในกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะเกิด ภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคไต นอกจากนี้ข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข พบว่าอัตราการป่วยรายใหม่ของโรคความดันโลหิตสูง ในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมา จากปี 2558 ถึงปี 2560 เพิ่มขึ้นจากประมาณ 900 ต่อแสนประชากร หรือจำนวน 540,013 คน เป็นมากกว่า 1,300 ต่อแสนประชากรหรือจำนวน 813,485 คน โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัจจัยการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0