โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อย่าได้ประมาทเป็นอันขาด!!!

ไทยโพสต์

อัพเดต 14 ธ.ค. 2562 เวลา 17.01 น. • เผยแพร่ 14 ธ.ค. 2562 เวลา 17.01 น. • ไทยโพสต์

 

                                                         (1)

        เมื่อช่วงไม่กี่วันนี้เอง…มีโอกาสได้ดู หนังสารคดี เรื่องหนึ่ง ที่เว็บไซต์เกี่ยวกับหนังเขาเอามาโพสต์ ให้ใครต่อใครสามารถไปโหลดมาดูได้แบบฟรีๆ แม้เป็นหนังใหม่ที่เพิ่งออกฉายเมื่อไม่กี่ปี หรือประมาณปี ค.ศ.2017 และค่ายหนังรุ่นใหม่ๆ อย่าง Netflix เขานำมาแพร่กระจายต่อเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ต้องยอม กลั้นใจดู เพราะเป็นหนังสารคดีว่าด้วยชีวิตการต่อสู้ทางการเมือง ของกุมารฮ่องกง ผู้มีนามกรว่า โจชัว หว่อง ที่เคยเซลฟ่ง เซลฟี กับคุณน้อง ธนาธร บ้านเรามาแล้วนั่นเอง…

                                                       (2)

        หนังเรื่องนี้…ว่าไปแล้ว ก็คงไม่ต่างไปจาก หนังโฆษณาชวนเชื่อ ของบรรดาพวกฝรั่งทั้งหลาย คือมุ่งที่จะยกย่อง เชิดชู สรรเสริญ เยินยอ ผู้ที่ต่อสู้เพื่อ เสรีภาพ และ ประชาธิปไตย ตามมาตรฐานตะวันตก หรือมาตรฐานของพวกฝรั่งนั่นเอง พระเอก ในหนังอย่าง โจชัว หว่อง จึงกลายเป็น Joshua-Teenager VS Superpower เป็น เดวิดผู้พิชิตโกไลแอธ หรือเป็นผู้ที่ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับประเทศอภิมหาอำนาจ อย่างรัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ ได้อย่างชนิดถึงน้ำ ถึงเนื้อ หรืออย่างที่สามารถนำมาใช้เป็นแบบอย่าง แนวทาง เป็นแรงกระตุ้น แรงบันดาล ใดๆ ก็แล้วแต่ ให้กับพวก เด็กๆ หรือบรรดา คนรุ่นใหม่ ได้เป็นอย่างดี…

                                                      (3)

        แต่ด้วยความเป็น หนังสารคดี ก็เลยพอมี ข้อเท็จจริง ให้พอจับต้องได้บ้าง อย่างน้อย…ก็พอได้เห็นรูปร่าง หน้าตา อากัปกิริยา บุคลิกลักษณะ การพูด การจา ของคุณน้อง โจชัว หว่อง แบบชนิดตัวจริง-เสียงจริง ที่สารคดีเรื่องนี้เขาอุตส่าห์ไปขุดเอามาตั้งแต่เมื่อครั้งอายุได้แค่ 14 ปีเท่านั้นเอง แต่ก็พร้อมโดดขึ้นเวที ถือไมค์ ไฟส่องหน้า ในฐานะผู้นำองค์กร Scholarism ที่ลุกขึ้นมาต่อต้าน คัดค้าน แผนการปฏิรูปการศึกษาของเกาะฮ่องกง หรือ แผนการศึกษาแห่งชาติ ที่ถูกมองว่าเป็นแผน ล้างสมอง พวกเด็กๆ ในเกาะฮ่องกง โดยบรรดาคอมมิวนิสต์ในจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง…

                                                     (4)

        จริง-ไม่จริง ถูก-ไม่ถูก…ใครที่อยากรู้คงต้องไปหาหนังเรื่องนี้มาดู มาใคร่ครวญ พิจารณากันเอาเอง แต่ถ้าดูจากบุคลิกลักษณะของเด็กอย่าง โจชัว หว่อง ไล่มาตั้งแต่อายุได้แค่ 14 ปี หรือตั้งแต่ต้นเรื่องไปยันท้ายเรื่องแล้ว ต้องเรียกว่า…เล่นเอาคนแก่ คนชรา อย่าง อันตัวข้าพเจ้าเอง อดที่จะเกิดอาการ ขนหัวลุก ขึ้นมามิได้ คือเป็นอะไรที่ดูแล้วไม่ค่อยจะเหมือน เด็ก อย่างที่เราได้เห็น ได้รู้จัก หรือได้เคยสัมผัสมากมายซักเท่าไหร่ และคงไม่ใช่ ผู้ใหญ่ หรือผู้ที่เติบโตขึ้นมา ในระดับที่พอมี วุฒิภาวะ บ้างแล้ว แต่ออกไปทางคล้ายๆ กับ เครื่องจักร หรือเครื่องยนต์กลไกอะไรซักอย่าง ที่พร้อมเดินเครื่องชน กับอะไรต่อมิอะไรก็ตาม ที่ไม่เป็นไปตาม โปรแกรม ซึ่งถูกติดตัวไว้ภายในตัวตนของตน อะไรทำนองนั้น…

                                                      (5)

        คือ ภายใต้ความเป็นเด็ก ของ โจชัว หว่อง หรือของบรรดาเด็กๆ ชาวฮ่องกงอีกเป็นจำนวนไม่น้อย ออกจะเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์จะ เข้าถึง หรือ เข้าใจ กันได้ง่ายๆ คล้ายๆ บรรดาพวกผู้ใหญ่ พวกพ่อๆ-แม่ๆ ที่เป็นตัวละครของอาจารย์ คึกฤทธิ์ ปราโมช เกิดความรู้สึกต่อพวกลูกๆ หรือพวกเด็กๆ ที่เกิดและเติบโตขึ้นมาในนวนิยายเรื่อง กาเหว่าที่บางเพลง นั่นเอง จะด้วยเหตุเพราะฝ่ายหนึ่งเป็น มนุษย์ โดยปกติ อีกฝ่ายหนึ่งเป็น มนุษย์ต่างดาว หรือฝ่ายหนึ่งเป็นมนุษย์ที่เติบโตขึ้นมาในสังคม อนาล็อก อีกฝ่ายเติบโตขึ้นมาในสังคม ดิจิตอล หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจสรุปได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ…บรรดาเด็กๆ เหล่านี้ ออกจะมีฤทธิ์ มีเดช ไม่น้อยไปกว่าเด็กๆ ในนิยายของอาจารย์ คึกฤทธิ์ มันเลยถึงทำให้ Superpower อย่างรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ ต้องอ้วกแตกอ้วกแตน อยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้…

                                                      (6)

        และอาจด้วยเหตุเพราะไม่สามารถ เข้าถึง และ เข้าใจ (แม้เพียรพยายามเพียงใดก็แล้วแต่)…มันเลยส่งผลให้การรับมือกับบรรดาเด็กๆ เหล่านี้ เป็นไปในแบบยื้ดเยื้อ คาราคาซัง มานานเป็นปีๆ หรือตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 โน่นเลย ตั้งแต่ผู้ว่าการเกาะฮ่องกงยังเป็น C.Y. Leung ไม่ใช่ Carrie Lum หรือตั้งแต่ สี จิ้นผิง ยังไม่ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีจีนทุกวันนี้ จนความสำเร็จในการต่อต้านแผนการศึกษาแห่งชาติ ถูกยกระดับไปเป็น การปฏิวัติร่ม เป็นการ ต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน และกำลังจะกลายเป็นการ แยกฮ่องกงให้เป็นอิสระ จากแผ่นดินจีนในอนาคตข้างหน้า หรือไม่ อย่างไร ก็ยังมิอาจสรุปได้…

                                                        (7)

        แต่โดยสรุปรวมความแล้ว…จะไป ประมาท หรือ ดูเบา บรรดาเด็กๆ เหล่านี้ไม่ได้เป็นอันขาด ตราบใดที่ฝ่ายหนึ่งยังพยายามดำรงตนเป็นมนุษย์โดยปกติ ขณะอีกฝ่ายกลายสภาพเป็นมนุษย์ต่างดาว หรือฝ่ายหนึ่งยังคงเป็นมนุษย์อนาล็อก ขณะอีกฝ่ายแปลงสภาพเป็นมนุษย์ดิจิตอล หรือมนุษย์อิเล็กทรอนิกส์ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะขนาดระดับ Superpower อย่างคุณพี่จีน ยังปวดเศียร เวียนเกล้า บวดหัวชนิดยาบวดหายยังเอาไม่อยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้ แล้วระดับไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา จะไปเหลืออะไร???

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0