เดือนนี้เป็นวิทยากรบ่อยหน่อยค่ะ เวลาไปพูดที่ไหน มักจะมีคนถามว่า“พี่อ้อยคะมี Power point หรือแผ่นใสไหม”…ไม่มีเลยค่ะ มีแค่ปากกับไมค์ ถ้าเรื่องไหนโดนใจ เชื่อว่า คนที่ฟังจะจำได้แม้ไม่ต้องจด ขอบคุณที่ไว้ใจ และดีใจถ้าสิ่งที่พูดไปเป็นประโยชน์นะคะ
จะเป็นปัญหาความรัก หรือ งาน เราใช้วิธีการในการรับมือคล้ายๆกัน “ยอมรับในความต่าง รับฟัง ใส่ใจ สื่อสารกลับไปด้วยพลังบวก” ทั้งหมดมาจากวิธีคิดที่ได้จากการฟังชีวิตคนอื่นๆทั้งนั้น แม้นับวันปัญหาความรักที่ส่งเข้ามา จะซับซ้อนมากขึ้นทุกที เพราะในที่สุดไม่มีคำว่า “แน่นอนเสมอไป”ในเรื่องความรัก อย่างปัญหานี้
“ พี่อ้อยคะ หนูเป็นทอมคบกับผู้หญิงมาเยอะมาก จนวันหนึ่งหนูกลับไปมีอะไรกับผู้ชาย และเพราะรักจึงยอมห่างจากเขา เพราะเขาไปมีคนใหม่อยู่ 3 ปี พอเลิกกัน เขาก็ไปบวช ได้เจอเขาอีกครั้งตอนที่เขาสึกออกมา เขาขอกลับมาเป็นแฟนอีกครั้ง ตอนที่เขาเลิกไป หนูก็ไปคบแฟนผู้หญิง แล้วก็โดนนอกใจอีก ตอนนี้ต่างคนต่างโสด แบบนี้หนูควรไปคบกับผู้ชายคนนั้นอีกดีไหม ทั้งที่จริงๆ ใจก็รักผู้หญิง หนูอยากทราบว่า ตอนนี้หนูควรตัดสินใจยังไงดี”
ถ้ายังสับสน อย่าดึงคนไหนๆเข้ามาในชีวิต ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราชอบเพศไหน แต่อยู่ที่เราเจอคนที่รักมากๆ จนไม่อยากทำให้เขาเสียใจเพราะเราหรือยัง คนมีเสน่ห์ ไม่ใช่คนที่สามารถคบคนนั้นคนนี้ได้ทีละหลายคน แต่คือคนที่สามารถดูแลรักษาใครบางคนให้รักเราได้น้าน นาน น้องคบผู้หญิงมามากมาย แล้วไปมีอะไรกับผู้ชายได้ตอนไหน มีใจหรือแค่ไร้สติ
คบกับเขาในฐานะอะไร ปล่อยให้เขาล่วงเกินร่างกายแบบที่ศึกษาดูใจกันนานแค่ไหนหรือ ทำไมทุกอย่างดูเริ่มง่าย และจบง่าย น้องบอกว่า เพราะรักเลยยอมถอยห่าง จริงๆเพราะเขาเลือกอีกทางต่างหาก ถ้ารักเราเขาคงไม่นอกใจ และส่วนใหญ่ อะไรก็ตามที่ให้เขาง่ายไป พอเสียไป เขาคงไม่เสียดายเท่าไหร่
ตอนเดินจากไป ถึงไม่แคร์หัวใจของเราเลย น้องจะเสียใจแค่ไหน ดูไม่มีผลอะไรต่อใจเขา ตอนนี้จะกลับมาใช้คำว่า “เรา” น้องว่าเขาจะจริงจังแค่ไหนหรือ? แฟนเก่ากลับมา ต้องใช้เวลา ดูให้แน่ว่าเขามีใจ หรือแค่ไม่มีที่ไปเฉยๆ ถ้ายังสรุปกับตัวเองไม่ได้ว่า รสนิยมของเราคืออะไร ใช้เวลาอยู่กับตัวเองซักพัก ยังไม่ต้องรีบไปรักใคร ทำความรู้จักกับใจของตัวเองไปพลางๆก่อน ความรู้สึกของคนเปราะบางเกินกว่าจะเอามาใช้ทดลองว่าเราต้องการเพศไหนกันแน่
ฟังเรื่องความรักของผู้คนมาถึงวันนี้ จนกล้าพูดว่า ความรู้สึกดี บางทีไม่ได้จำกัดเพศ เราไม่ได้รักใครคนนั้นเพียงเพราะเขาเป็นเพศไหน แต่เรารู้สึกอบอุ่นใจกับคนๆนี้ รู้สึกดีที่ได้เดินหน้าไปด้วยกัน แบ่งปันความสุข เฉลี่ยความทุกข์ และเมื่อรักใคร เราจะไม่ยอมทำให้เขาเสียใจเพราะเรา
ไม่ใช่ชอบคนนี้ แต่ไปมีอะไรกับคนนั้น โลกนี้ไม่ได้อนุญาติให้เรามีแฟนได้เพศละคนโดยไม่รู้สึกผิดอะไร เพราะยังไงก็ผิด ความรักอาจจะแบ่งได้ แต่คนรักแบ่งยาก เคยเจอบางคน แฟนหญิงก็อยากได้ แฟนชายก็อยากมี ไม่รู้ตัวเองว่าจะชอบเพศไหนดี เลยคบรวมๆกันไป ช่างเป็นวิธีที่เห็นแก่ตัวไม่น้อย
ถ้ายังสับสน คบทีละคนไว้ก่อน จะเพศไหนค่อยว่ากัน อย่าเพิ่งดึงคนนั้นคนนี้เข้ามาทดสอบความสับสนของเราพร้อมๆกัน ถ้ารักใครมากพอ ค่อยขอเป็นแฟน ไม่ใช่ขอให้มีคนมากมายอยู่ใกล้ๆ แต่ความเหงาไม่เคยหายไป ความอ้างว้างที่อยู่ท่ามกลางผู้คน ทนทุกข์ทรมานกว่าเยอะ เหงาให้รู้ว่าเหงาเพราะไม่มีใคร ดีกว่ามีคนอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีใครทำให้เรารู้สึกรักได้เต็มหัวใจซักที
นอกจากสับสนทางเพศแล้ว อย่าสับสนทางความสัมพันธ์ รักใครอยู่กับคนนั้น ถ้ายังไม่ได้รักมากมาย จะหญิงหรือชาย เดี๋ยววันหนึ่งก็ต้องไปจากกันอยู่ดี จะกลับไปหาแฟนเก่า ก็ต้องบอกตัวเราไว้ด้วยว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเดินจากไป ต่อให้กลับมาใหม่ ก็ใช่ว่าจะไปจากเราอีกไม่ได้
ถ้ารักเขามากพอจะขอเสี่ยงอีกซักครั้ง ก็ลองดูซักตั้ง ถ้าหัวใจกลับมาพัง ก็แค่สร้างพลังให้เดินต่อได้เหมือนครั้งที่ผ่านมา หรือถ้ามองแล้วว่า ยังไงก็เสี่ยงเกินไป จะเอาหัวใจไปให้เขาเหยียบย่ำทำไม ซ้ำแล้วซ้ำเล่าล่ะน้อง
