โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อย่าเติมฟืน เข้ากองไฟ

สยามรัฐ

อัพเดต 31 มี.ค. 2563 เวลา 17.10 น. • เผยแพร่ 31 มี.ค. 2563 เวลา 17.10 น. • สยามรัฐออนไลน์
อย่าเติมฟืน เข้ากองไฟ

ในขณะที่“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำลังทุ่มเททุกสรรพกำลังไปกับการแก้ไขวิกฤติที่เกิดจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เผชิญกับแรงกดดันรอบทิศรอบทาง จนทำให้ผู้นำรัฐบาลถึงกับผ่ายผอม อยู่นั้น

กลับพบว่าอีกด้านหนึ่ง แนวรบทาง “กองทัพ” กลับสร้างกระแสที่ออกมาในทางที่เป็น “ลบ” จนทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อมีรายงานว่า “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมเสนอครม. ขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการโครงการจัดหาเรือเอนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำ ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 6,100 ล้านบาท

แน่นอนว่าเม็ดเงินงบประมาณมูลค่า 6พันล้านบาทที่จะถูกจัดสรรไปเพื่อการซื้อเรือยกพลขึ้นบก มีขึ้นในยามที่บ้านเมือง กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติอันเนื่องมาจาก “พิษโควิด-19”ส่งผลกระทบไปยังภาวะเศรษฐกิจที่คนไทยทั้งประเทศ ทุกภาคส่วนต้องรับมือ ชนิดที่เรียกว่า “หนักหนาสาหัส” กันถ้วนหน้า

เมื่อมาตรการต่างๆที่ออกมาโดยรัฐบาล ล้วนมุ่งที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 เพื่อไม่ให้สถานการณ์ของประเทศไทย เดินไปในทิศทางเดียวกับหลายประเทศในโซนยุโรป ที่มีอัตราตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งไปแตะหลักแสน มีผู้เสียชีวิต หลักหมื่นราย

เมื่อสังคมมีผู้ป่วยรอรับการรักษา จนล้นโรงพยาบาล ย่อมกระทบกับระบบสาธารณสุข ที่จะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ รวมทั้งหากบุคลากรทางการแพทย์ ต้องเจ็บป่วย ไปด้วย จะยิ่งทำให้แนวโน้มการแก้ไขปัญหาเลวร้ายตามมาในที่สุด

กว่าที่การประชุมครม. เมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 จะมีความชัดเจนออกมาว่า กระทรวงกลาโหม ได้ขอถอนวาระการจัดซื้อเรือยกพลขึ้นบก ออกไปก่อน พร้อมทั้ง“พล.ร.ท. ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์” โฆษกกองทัพเรือ ออกมาชี้แจงว่า ไม่ใช่เป็นการขออนุมัติต่อเรือยกพลขึ้นบก เพราะโครงการนี้ผ่านการอนุมัติ และมีการทำสัญญาไปตั้งแต่เดือนพ.ย.2562 แต่เรื่องที่เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเรือ เช่น การส่งคณะกรรมการไปตรวจแบบเรือ และการเตรียมส่งทหารไปฝึก เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

“กองทัพเรือไทยทำสัญญาต่อเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ลำใหม่จากจีน เพื่อเป็นเรือพี่เลี้ยงให้เรือดำน้ำ และเพื่อภารกิจยกพลขึ้นบก บรรเทาสาธารณภัยเสริมภารกิจเรือหลวงอ่างทอง ด้วย โดยมีพล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ รองผบ.ทร.

โดยในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษากองทัพเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯลงนาม กับประเทศจีนในสัญญาการต่อเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่จากจีน 1 ลำ เมื่อเดือนพ.ย.2562 ในงบประมาณ 6,100 ล้านบาท”

กว่าที่กองทัพเรือจะออกมาชี้แจง ก็ดูเหมือนว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ดังเซ็งแซ่ กระแทกทั้ง“กองทัพ” กระทบไปถึง บิ๊กตู่ ในฐานะ“รมว.กลาโหม” ที่นั่งกำกับดูแลทั้งกองทัพและครม.เข้าเต็มเปา งานนี้ได้กลายเป็น “จุดอ่อน” ช่องโหว่เล็กๆที่ทำลาย “คะแนน” ของตัวพล.อ.ประยุทธ์ ไปอย่างน่าเสียดาย

จนมีเสียงสะท้อนออกมาว่า คนที่ทำให้รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ “เสียรังวัด” กลับกลายเป็น “กองทัพ” ขุมข่ายกำลังที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์ กำกับดูแลนั่นเอง !!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0