โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

อย่าสูญเสียความจริงไปเพราะความเหงา - เพจบันทึกนึกขึ้นได้

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 02 เม.ย. 2563 เวลา 17.00 น. • เพจบันทึกนึกขึ้นได้

จะว่าไปแล้วตั้งแต่เล็กจนโตมา

เราได้รับการปลูกฝังให้ดูแลร่างกายตัวเองโดยตลอด

เวลาหกล้ม ก็รีบไปล้างน้ำ ล้างแผล หาหมอให้ปิดแผลให้

ทุกวันต้องแปรงฟัง ตื่นเช้า ก่อนนอน

เรารู้วิธีที่จะทำให้ร่างกายเราแข็งแรง

เราออกกำลังกาย วิ่ง ฟิตเนส เล่นกีฬา

กินของที่ดี ให้เราสามารถอยู่กับร่างกายนี้ไปได้นานๆ

แต่พอใช้ชีวิตมาสักระยะ
เราจะรู้ว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ไม่ได้มาทางกายภาพเพียงอย่างเดียว
บางครั้งร่างกายที่แข็งแรง ไม่ได้ช่วยต้านทานการกระทบกระเทือนทางจิตใจได้

แต่ผมก็ไม่เคยเห็นนะ ตั้งแต่เรียนหนังสือมา
ว่าในหลักสูตรไหน สอนวิธีการเยียวยาอารมณ์หรือความรู้สึกตัวเองในรูปแบบต่าง ๆ เลย

เข้าใจว่าเราถูกสอน ถูกให้เรียนรู้ในเรื่องของคนอื่น
จนบางทีเราก็รู้สึกว่า เราเข้าใจสิ่งแวดล้อม เข้าใจทุกอย่าง 
แต่พอมีปัญหาอะไรกับตัวเองขึ้นมา
เรากลับไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง
ว่าที่เป็นอยู่มันเรียกว่าอะไร มันกำลังรู้สึกอะไร
แล้วพอเราไม่รู้ว่า เราเป็นอะไร นี่มันยากเลยนะ ที่จะหาทางออก
หาทางแก้ว่า ควรเดินออกมาจากความรู้สึกเหล่านั้นยังไง

มันมีหลายเรื่องเลยนะที่ทำให้เรารู้สึก
ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยลุกลามไปจนถึงเรื่องยิ่งใหญ่

เรื่องที่ใครสักคนที่รอไม่ยอมตอบแชทสักที (มองดี ๆ อันนี้เล็กน้อยมาก)
เรื่องที่ใครบางคนมองไม่เห็นค่าในตัวเรา
การถูกปฏิเสธ
การสูญเสีย

ยิ่งเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นกับเรา
เราเริ่มที่จะจมดิ่งไปกับอารมณ์เหล่านั้น
กลายเป็นความเหงา ความเปล่าเปลี่ยว
ความคิดต่างๆ ดูเหมือนจะแย่กว่าที่เป็นจริง กว่าที่เป็นอยู่

ผมเองก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น
ทำไมเราถึงคิดได้น้อยกว่าปกติในสภาวะที่จิตใจไม่พร้อมรับรู้หรือเปลี่ยนแปลงอะไร
หรือช่วงเวลาที่รู้สึกเหมือนตัดขาดจากผู้คนรอบๆ ตัว

ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้มันมีแต่จะทำลายตัวเราลงไปเรื่อย ๆ
จนบางครั้งมันก็ทำให้เราอยากนอนนิ่ง ๆ ไม่อยากไปพบปะผู้คน
ไม่อยากเจอกับใคร อยากตื่นขึ้นมาแล้วทุกอย่างมันผ่านไป แล้วจบลงด้วยดี

เค้าบอกว่าเหงาเท่ากับเราสูบบุหรี่
แต่บุหรี่มันมีบอกที่ซองนะว่า บุหรี่จะทำลายสุขภาพคุณ
แต่ความเหงามันไม่มีอะไรมาเตือนเราเลยนะ

ไม่ใช่แค่ความเหงาหรอกที่ทำให้เราสูญเสียการรับรู้ความเป็นจริงไป
ความล้มเหลว ความสูญเสียก็ทำให้เราเป็นแบบนั้นได้พอ ๆ กัน

แต่จะทำยังไงในเมื่อเราไม่เคยถูกฝึก หรือรู้วิธีในการเยียวยาความรู้สึกตัวเองเลย
แถมเมื่อเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับเราแล้ว
เราต่างมีปฏิกิริยาตอบสนองกับเรื่องราวแย่ ๆ ของตัวเองไม่เหมือนกัน

แต่มันจะมีความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้นเสมอว่า
เราผ่านมันไปไม่ได้หรอก เราจะจมอยู่กับมันไปแบบนี้
เราไม่ไหวแล้ว ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย
ซึ่งความคิดแบบนี้มันก็จะทำให้เราออกไปไหนไม่ได้สักที

ผมเคยเป็นนะเวลาเศร้ากับอะไรมาก ๆ
จิตใจมันก็วนเวียน หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้
ถึงบางทีรู้ว่าต้องทำยังไง แต่ก็จิตไม่แข็งแรงพอที่จะลากตัวเองออกไปได้
กล้ามเนื้อจิตใจที่มันไม่เคยถูกฝึก พอเจอมันก็ไม่มีแรงดึงพอให้ลุกขึ้นมา

ทั้ง ๆ ที่ถ้ามองจากมุมคนอื่น เขาอาจจะคิดว่า
เรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นเขา ไม่น่ายากเกินความสามารถอะไร
ซึ่งผมต้องบอกกับตัวเองอยู่ตลอดว่า ไม่ว่าจะใช้เวลามากแค่ไหน
สุดท้ายเราจะผ่านมันไปได้

ถ้าใครเคยถูกใครสักคนบอกเลิก หรือปฏิเสธความสัมพันธ์มา
คุณจะรู้ว่า ความรู้สึกเหล่านี้มันเจ็บปวดมากขนาดไหน
เราแทบไม่รู้สึกอะไรอีกเลยในตอนนั้น ในตอนที่เขาพูดกับเราแบบที่ไม่น่าจะมีใครในโลกนี้พูดกับเราแล้ว

คำพูดที่แม้แต่เพื่อน ครอบครัว ไม่มีทางพูดกับเรา

เพื่อนผมเคยบอกนะว่า
บางทีเราต้องรู้นะว่า ใครคือ Toxic People ในชีวิตเรา
ไม่ใช่ปิดหูปิดตา แล้วคิดว่า ทั้งหมดมันเป็นความผิดของเราเอง

สิ่งที่สำคัญกว่าเมื่อเราถูกปฏิเสธ
คือในใจเรานั้นเราพูดอะไรกับตัวเอง

แน่นอน ผมเคยมีความคิดที่ว่า
ก็เพราะว่ามึงมันห่วย ความสามารถเรามันแย่
หรือ เพราะว่าแกไม่หล่อไง นิสัยก็งั้น ๆ ใครจะอยากไปสนใจแกวะ

เราเริ่มมองหาแต่ข้อเสียของตัวเองออกมาย้ำ ซ้ำเติม
บางคนอาจไม่ได้ตอกย้ำมากขนาดนั้น
แต่เราต่างเคยโทษตัวเองกันทั้งนั้นแหละ แว้บนึงในชีวิตนะ

เรารู้ว่า ถ้าหยิบมีดขึ้นมากรีดข้อมือตัวเอง
แทงไปที่แขน มันจะเกิดแผลแบบไหน มันจะกว้าง และเลือดออกไหลแทบไม่หยุด
แต่เราไม่ทำแบบนั้นหรอก เพราะเรารู้ว่ามันจะเจ็บขนาดไหน

แต่ในทางจิตใจแล้ว
เราเอาความคิดตัวเองทิ่มแทงข้างในให้รู้สึกเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยการวนความคิด โทษตัวเอง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ขึ้นไปเรื่อยๆ

ไม่ใช่เพราะเราไม่รักตัวเองหรอก
ที่เป็นอยู่อย่างนี้
แต่จริงๆ เพราะเราไม่รู้มากกว่า และไม่เคยได้ฝึก
การดูแลหัวใจตัวเองเลย

ยิ่งตอนที่เราไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
ควมเจ็บป่วยทางจิตใจจะลุกลามเข้ามาเรื่อยๆ
และเจ็บมากขึ้นกว่าเวลาปกติหลายเท่า
แล้วมันจะใช้เวลาในการกลับมาเป็นแบบเดิมนานมาก

สิ่งที่ผมบอกตัวเองเสมอเวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้
คือต้องคิดก่อนว่ามันไม่ใช่ความผิดของเรา
ไม่ซ้ำเติมตัวเอง เราควบคุมความคิดจิตใจคนอื่นไม่ได้
แต่เราต้องรู้ว่า ความเสียใจตอนนี้มันคืออะไร

การที่มีใครสักคน หรือเรื่องอะไรสักอย่างที่จริง ๆ แล้วเราต้องการ
แต่การได้อยู่ใกล้ การมีอยู่ของมันทำให้ข้างในเราพัง

นั่นหมายความว่า สิ่งนั้น หรือคนนั้นไม่ได้เหมาะกับเราแล้ว

เลิกย้ำคิดย้ำทำกับความคิดตัวเอง
สิ่งที่ผมทำจริงๆ เวลาผิดหวัง เสียใจ คือ
ตอนเช้าก่อนอาบน้ำ ผมจะส่องกระจก แล้วมองหน้าตัวเอง
แล้วถามตัวเองว่า นี่คือสิ่งที่เราต้องการจะให้มันเกิดขึ้นกับเราจริงๆ หรอ

ทำไมผมไม่สงสารตัวผมเองบ้าง
ผมสนใจอะไร ผมใส่ใจกับอะไร
ทำไมผมถึงทุ่มเทเวลาระหว่างวันในการคิดไปกับเรื่องเหล่านั้น
แทนที่จะหันมาสนใจตัวเอง หันมาดูแลจิตใจตัวเองบ้าง

คนที่อยู่กับเรามาเท่ากับอายุตัวเอง
กับคนที่อยู่กับเราแค่ไม่กี่เดือน กี่ปี
ใครที่มันสำคัญกับชีวิตเราจริงๆ กันแน่

แต่มันก็ยังมีความคิดเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นในหัว
ระหว่างที่ขับรถ ระหว่างที่ทำงาน ระหว่างที่เข้าห้องน้ำ
ระหว่างห้องประชุม ระหว่างที่เรียน
ความคิดพวกนี้แหละที่ทำให้จิตใจผมแย่ขึ้นเรื่อยๆ

สิ่งที่ผมทำคือพยายามสังเกตตัวเอง
พอเริ่มจะคิดถึงเรื่องนั้น ผมจะหาจุดเบี่ยงเบนความสนใจ
ไปคิดเรื่องอื่น ไม่จับโทรศัพท์
จริงๆ ถ้าเรารู้ตัวว่าเรากำลังคิดเรื่องอะไร
ผมว่าอันนั้นคือชนะไปกึ่งหนึ่งแล้วนะ

มันไม่ได้หายกันง่ายๆ แต่มันต้องทำตัวเองให้รู้สึกตัวอยู่บ่อยๆ
ว่ากำลังคิดถึงเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว
แล้วหาอย่างอื่นทำ
ไม่นาน มันจะค่อยๆ หายไป
ถ้าเราทำแบบนั้นจริงๆ

ทางไหนที่เดินแล้วเจ็บปวด
ใครที่เจอแล้วเจ็บใจ
บางทีก็ต้องเลี่ยงที่จะเดิน หรือจะไปพบกันอีก

เราต้องทำอะไรสักอย่างเมื่อรู้สึกเหงา
เราต้องดูแลความรู้สึกตัวเอง เมื่อความมั่นใจในการเป็นตัวเองหายไป
เราไม่ใช่ไม่รักตัวเอง
แต่เราแค่ไม่เคยฝึกการรักตัวเอง
แบบที่เราทุ่มเทไปรักคนอื่น

ทุกอย่างต้องฝึกฝน
นักกีฬา นักเรียน

สุดท้ายแล้วเราจะเป็นคนที่รักตัวเองได้จริงๆ มั้ย
ขึ้นอยู่กับว่าเราตั้งใจที่จะเป็นคนที่มีคุณภาพชีวิต
ทั้งทางร่างกาย และจิตใจมากแค่ไหน

แล้วในวันที่เรารู้สึกดีกับตัวเอง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เราจะมีเหตุผลกับมัน
มากกว่านั่งหาเหตุผลว่าทำไม
แล้วก็หาอะไรอ่าน หาอะไรดูเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นสักพัก
แล้วกลับไปรู้สึกและเป็นเหมือนเดิมต่อ

แบบที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้

ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก เพจบันทึกนึกขึ้นได้ บน LINE TODAY ทุกวันศุกร์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0