เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 เฟซบุ๊คสนธิรัตน์ สนจิรวงศ์ ได้แชร์ข้อความจากเพจมูลนิธิแพทย์ชนบท Rural Doctor Foundation ที่ระบุว่า ครั้งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดประโยคนี้
"ผมคิดว่า จะใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ให้มากที่สุด… แต่ถ้ายี่เกยจะบวช ผมก็ต้องสึกออกไปอยู่บ้านค้าขาย"
ผู้พูดคือ เงื่อม พานิช หลังบวชได้หนึ่งพรรษา ปี พ.ศ. 2470
ยี่เกยคือชื่อของน้องชายของเขา
เดิม เงื่อม พานิช คิดจะบวชเพียงสามเดือน แล้วจะสึกไปทำการค้าต่อ
เจ้าคณะอำเภอได้ยินประโยคข้างต้น ก็ไปคุยกับโยมแม่ของเขา บอกว่าเงื่อมควรจะอยู่เป็นพระต่อไป ส่วนยี่เกยผู้น้องนั้นไม่ต้องบวชก็ได้ เพราะใช้ชีวิตเหมือนพระอยู่แล้ว
ยี่เกยนอกจากจะไม่ได้บวช ยังยอมเลิกเรียนต่อแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ที่เรียนมาได้ 1 ปีแล้ว มาทำงานบ้านแทนเพื่อให้พี่ชายได้บวชต่อไป
ยี่เกยจบมัธยมปลายที่ รร. สวนกุหลาบวิทยาลัย
ยี่เกยคือ ธรรมทาส พานิช เงื่อมก็คือ ท่าน พุทธทาสภิกขุ
ผลจากการตัดสินใจครั้งนี้ของฆราวาสที่ดีงามคนหนึ่ง ทำให้โลกมีพระที่ดีงามรูปหนึ่ง ผู้ที่ในกาลต่อมาสร้างฆราวาสที่ดีงามอีกจำนวนนับไม่ถ้วน