“ใครที่อยากพ้นทุกข์ แต่กลัวทุกข์ที่เกิดกับตน ไม่ยอมพิจารณา ผู้นั้นไม่มีวันพ้นทุกข์ไปได้”
-พระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต-
ทุกข์ คืออะไร..ทุกข์ก็คือ ความผิดหวัง ความเสียใจที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับร่างกายและจิตใจ
คนทุกคนล้วนมีความทุกข์ และไม่มีใครหนีทุกข์ได้สำเร็จ สิ่งที่ทำได้เพียงแค่ปล่อยปัญหาหรือวางความทุกข์ไว้ชั่วคราว แม้ความทุกข์นั้นจะยังคงอยู่ แต่การหนีทุกข์ไปสักพักก็ช่วยให้เราสบายใจและสบายตัวขึ้น ถึงความทุกข์จะไม่ได้ถูกคลี่คลายแต่เราก็ได้มีเวลาตั้งตัว ตั้งสติรับมือและหาทางดับทุกข์ได้
ในทางพระพุทธศาสนาเราหนีทุกข์ไม่ได้และไม่มีทางหนีพ้น แต่ดับทุกข์ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินและรู้จักกันอยู่แล้ว นั่นก็คือ อริยสัจ 4 ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าพูดบ่อยที่สุด สอนมากที่สุดนั่นคือเรื่องของความทุกข์…
เมื่อไรก็ตามที่เราเข้าใจความทุกข์ เราจะเข้าใจอริยสัจ 4 และเมื่อไรก็ตามที่เราเข้าใจอริยสัจ 4 เราจะพ้นทุกข์ได้
อริยสัจ 4 คือความจริงอันประเสริฐ 4 ประการที่ประกอบด้วยทุกข์ (ปัญหา) สมุทัย (เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์) นิโรธ (การดับทุกข์) และมรรค (แนวปฏิบัติที่นำไปสู่การดับทุกข์-มรรคมีองค์ 8) ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการดับทุกข์ เมื่อทุกข์ก็ต้องทุกข์อย่างมีสติ อย่าปล่อยให้ใจวุ่นวายสับสน พาตัวเองจมอยู่กับความทุกข์แบบไม่จบไม่สิ้น
ความทุกข์ส่วนใหญ่เกิดจากตัณหานั่นแหละ ตัดตัณหาได้ ก็ตัดทุกข์ได้ ตัณหาก็คือความอยากได้ อยากมี อยากเป็น เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความอยาก เมื่อนั้นทุกข์ก็รออยู่ไม่ไกล ที่สำคัญตัณหามักมีแต่เพิ่มขึ้น ยิ่งเราไม่ตัด ไม่หยุดตัณหา ความอยากก็จะยิ่งไม่สิ้นสุด สุดท้ายก็เป็นเราเองนี่แหละที่เป็นทุกข์
วิธีดับทุกข์มีทางเดียว ก็คือต้องทำความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่มีวันดับทุกข์ได้..ใช้สติ ใช้ปัญญา ใช้ความจริงตามหลักอริยสัจ 4 ทำความเข้าใจก่อนว่าที่เป็นทุกข์อยู่นั้นเกิดจากอะไร เข้าใจมันอย่างแจ่มแจ้งแท้จริงถึงจะมีหนทางดับทุกข์ ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ยอมเข้าใจ ก็ไม่มีวันพ้นทุกข์
คนที่ไม่ทุกข์ก็คือคนที่ไม่มีความอยาก แต่จะมีซักกี่คนที่ตัดความต้องการนั้นได้ คนเราถึงจะได้จมอยู่กับความทุกข์กันตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราก็แค่ต้องทำความเข้าใจความทุกข์บนพื้นฐานของความจริง ใช้สติ ใช้ปัญญาแบบไม่เข้าข้างตัวเอง แล้วในที่สุดก็จะพ้นทุกข์เอง
