อยู่ไม่ได้แล้ว! ฝรั่งสุดทน ประกาศขายบ้านหรู โจรงัดสูญนับล้าน แจ้งตร.ยังจับไม่ได้

อยู่ไม่ได้แล้ว! ฝรั่งสุดทน ประกาศขายบ้านหรู

โจรงัดสูญนับล้าน แจ้งตร.ยังจับไม่ได้

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นางเดือนเพ็ญ วินน์ อายุ 40 ปี ภรรยาชาวไทยของนายโรเบิร์ต วินน์ อายุ 59 ปี สัญชาติแคนาดา ซึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเดอะปาล์ม ถนนเทศบาล 7 ซอยคลองทราย ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวหลังถูกโจรงัดบ้านเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สิน ทั้งเงินสดสกุลต่างๆ และทองคำรูปพรรณ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อุดม ศรีสงค์ ร้อยเวร สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง จนถึงวันนี้คดียังไม่คืบหน้า แถมตำรวจยังพูดจาด้วยถ้อยคำที่ดุดัน จนทำให้ต้องประกาศขายบ้าน เพื่อจะย้ายกลับ ไปอยู่ที่ประเทศแคนาดา

นางเดือนเพ็ญ เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านเสริมสวย ส่วนสามีชาวแคนาดาทำธุรกิจส่วนตัว ได้ย้ายมาอยู่ประเทศไทยนานแล้ว เพราะสามีชอบประเทศไทย สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ตนกับสามีเดินทางไป จ.ชลบุรี เมื่อกลับมาถึงบ้านก็แทบทรุด เพราะประตูหลังบ้านถูกตัดเหล็กแล้วงัดเข้าไป

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

นางเดือนเพ็ญ กล่าวอีกว่า พวกตนรีบไปตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่าเงินสดไทย 30,000 บาท เงินดอลลาร์สหรัฐ 40 ดอลล์ล่า เงินสกุลดอลลาร์แคนนาดา 40,000 ดอลลาร์ เงินสกุลเยน 10,000 เยน โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ใช้ในการเดินทาง ซึ่งรวมมูลล่าทรัพย์สินกว่า 1 ล้านบาท หายไป สำหรับเงินสกุลต่างๆ ตนเก็บไว้ที่บ้านพัก เพื่อรอให้ค่าเงินสูงขึ้นแล้วจะนำไปแลกกับธนาคาร

บ้านถูกงัดขโมยทรัพย์สิน

นางเดือนเพ็ญ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพไม่ค่อยชัดเจน เพราะไกลจากรัศมีกล้องวงจรปิด คนร้ายเป็นผู้ชายกลางคน สวมเสื้อคลุมแขนยาวคล้ายกับเสื้อพนักงานโรงงาน ปีนรั้วเข้าไปแล้วตัดเหล็กประตูหลังบ้านอย่างใจเย็นก่อนจะงัดประตูเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ออกมาพร้อมกับทรัพย์สินที่ขโมยมา ก่อนจะปีนออกจากบ้านแล้วหนีไปอย่างลอยนวล

"หลังเกิดเหตุจึงรีบเดินทางไปแจ้งความ พร้อมนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นหลักฐานเดียวที่มี ไปแจ้งความที่ สภ.บ้านฉาง ระยอง และแจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางของหมู่บ้านให้ทราบ หลังแจ้งความก็ได้ติดต่อสอบถามความคืบหน้ากับตำรวจเจ้าของคดี แต่กลับได้รับคำตอบแบบไม่พอใจ แถมยังดุอีกด้วย จึงรู้สึกเบื่อกับพฤติกรรม และสุดทนกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ทั้งๆ ที่เป็นหมู่บ้านที่มีมาตรฐาน การรักษาความปลอดภัยดี แต่กลับเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก"

นางเดือนเพ็ญ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้บ้านฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นบ้านของชาวต่างชาติเคยถูกโจรกรรมมาแล้ว ครั้งนั้นคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณหนัก 8บาท และเงินสดจำนวนหนึ่ง ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกัน ที่รู้ถึงความเคลื่อนไหวของคนในหมู่บ้านเป็นอย่างดี จะเห็นได้จากเวลาที่เข้าก่อเหตุ มักจะทราบว่าบ้านหลังไหนไม่มีคนอยู่ จึงสร้างความแปลกใจและหวาดระแวงกับผู้อาศัยในหมู่บ้าน ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

ด้านนายโรเบิร์ต กล่าวว่า ตนรู้สึกผิดหวังกับการดูแลรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน และการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เสียความรู้สึกมากกับการพูดจาที่ดุดัน ราวกับตนเป็นผู้ต้องหา ทั้งที่ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วแต่ยังไร้เบาะแส หลังเกิดเหตุต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว จึงปรึกษากับภรรยาว่าจะกลับไปอยู่ที่แคนาดาดีกว่า ทั้งๆ ที่รักประเทศไทยมาก แต่ทนอยู่กับความหวาดกลัวต่อไปไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกโจรกรรมอีก

นายโรเบิร์ต กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้ให้ทนายยื่นฟ้องหมู่บ้านเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย เพราะถือว่าเป็นความผิดของโครงการที่ดูแลไม่ทั่วถึง ทั้งที่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางค่าดูแลความปลอดภัยทุกเดือน โดยจะประกาศขายบ้าน 5.5 ล้านบาท ยอมขายขาดทุน เพราะราคาบ้านและตกแต่งร่วม 7 ล้านบาท หลังจากขายบ้านเรียบร้อยก็จะย้ายกลับไปอยู่แคนาดาพร้อมภรรยา

ร.ต.อ.อุดม ศรีสงค์ ร้อยเวร สภ.บ้านฉาง ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า สำหรับกรณีคดีดังกล่าว ทางตำรวจได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง หลังรับแจ้งมีการประสานทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เก็บรอยนิ้วมือแฝงในจุดเกิดเหตุ และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบลงพื้นที่เก็บหลักฐานล่าตัวคนร้าย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

"ส่วนกรณีที่ว่าพูดจาดุดันคงจะเข้าใจผิดในการสื่อสาร เพราะผมก็รับฟังและอธิบายให้ฟังอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องจับคนร้ายคงต้องใช้เวลา เพราะในพื้นที่ดังกล่าวมีประชากรแฝงเข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเต็มที่และเต็มใจให้บริการด้วยความเป็นมิตร" ร.ต.อ.อุดม กล่าว