รู้หรือไม่ว่ามีเด็กกว่า 260 ล้านคนที่ต้องเรียนหนังสือนอกโรงเรียน และมีเด็กมากมายที่มีอุปสรรคในการไปเรียน แม้จะมีคนเคยบอกว่าการเรียนรู้นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นแต่ในห้องเรียน แต่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะว่าบางครั้งการมีตึก หรือห้องเรียน ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ แต่การไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านั้นกลับมาเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ของมนุษย์บางกลุ่มเช่นเดียวกัน #ลัดเลาะรอบโลก เลยอยากขอพาทุกคนไปดู 10 ห้องเรียนจากทั่วโลกที่อาจสร้างความตระหนักได้ว่าทุกคนนั้นควรมีสิทธิที่จะเข้าถึงการศึกษาได้ เพราะถือว่าเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน
โรงเรียนเรือบังกลาเทศ ถือเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่จำกัด และเป็นประเทศที่ถูกผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางอากาศเป็นอย่างมาก ซึ่งนี่ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็ก ๆ เข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ยาก แต่คนบางกลุ่มของบังกลาเทศก็เรียนรู้ที่จะรับมือกับปัญหาดังกล่าวด้วยการที่มี “ห้องเรียนบนเรือ” ที่เปรียบเสมือนการไปรับเด็กให้มาเรียนถึงหน้าบ้าน หมายความเด็ก ๆ ที่อยู่ริมน้ำ ไม่ว่าจะห่างไกลแค่ไหน ก็จะสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนได้ รวมไปถึงจะมีห้องสมุดด้วย
ความห่างไกลของโรงเรียนประถมในมณฑลเสฉวนที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ทำให้ผู้ที่จะไปเรียนนั้นต้องใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงกว่าจะไปถึง โดยนี่ถือเป็นการปีนเขาย่อม ๆ เลยทีเดียว เพราะว่าเส้นทางก็แคบ ยากทำลาก เชื่อเลยว่าเส้นทางการไปโรงเรียนแห่งนี้ จะทำให้คุณอาจจะไม่กล้าบ่นถึงความไกลของคุณอีกเลย
เรียกได้ว่าเป็นคลาสเรียนที่ใหญ่ที่สุด เพราะว่ามีเด็กจากกว่า 2 พันโรงเรียนมารวมตัวอยู่กันที่สนามฟุตบอล นี่คือห้องเรียนของเด็ก ๆ ในอาร์เจนตินา ที่โรงเรียนได้พาเด็ก ๆ ไปรวมตัวกันที่สนามฟุตบอล ซึ่งการเรียนในบทเรียนดูเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย เพราะที่นี่เน้นการฝึกฝนฟุตบอล
โรงเรียนประถม Abo ในนิว เม็กซิโก เป็นโรงเรียนของชาวอเมริกันที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งที่นี่เป็นหลุมหลบภัยสมัยสงครามเย็น โดยโรงเรียนแห่งนี้ หลังคาจะเป็นสนามเด็กเล่นให้เด็ก ๆ โดยโรงเรียนแห่งนี้ก็มีความแนบเนียนจนเด็ก ๆ ไม่อาจรู้ได้เลยว่าโรงเรียนของพวกเขาเป็นหลุมหลบภัยระเบิดมาก่อน
ถ้าพูดถึงการเดินทางในประเทศอินเดีย ทุกคนก็คงจะนึกถึงรถไฟ แต่ทราบหรือไม่ว่านอกจากรถไฟที่คนเยอะมากมายแล้ว อินเดียยังมีโรงเรียนตามชานชาลารถไฟอีกด้วย ซึ่งโรงเรียนนี้เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือให้เด็กชายขอบในประเทศได้เข้าถึงการศึกษา โดยจะสอนให้กับเด็ก ๆ ที่ไม่ได้ไปโรงเรียน โดยโรงเรียนชานชาลานี้สอนให้เด็กกว่า 4 พันคนเลยทีเดียว
ถ้าเป็นในประเทศไทย เด็ก ๆ ที่ยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะสามารถเรียนในโรงเรียนใน พ่อแม่ก็อาจจะนำไปไว้ที่โรงเรียนเตรียมอนุบาล หรือสถานบันดูแลเด็กต่าง ๆ แต่ในยุโรปนั้นมีโรงเรียนเตรียมอนุบาลที่ไม่ได้อยู่ในห้องเรียน แต่จะพาเด็ก ๆ ไปสำรวจโลกภายนอก สัมผัสกับธรรมชาติ หรือเรียกว่าเป็นห้องเรียนในป่า เด็ก ๆ ก็จะได้เล่นไปพร้อมกับเรียนรู้ ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ให้เด็ก ๆ ก่อนเริ่มเข้าโรงเรียน
เป็นอีกโรงเรียนที่มีแนวคิดไม่ซ้ำใคร ก็คือโรงเรียนในบรู๊คลิน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ไม่มีหลักสูตร เด็ก ๆ สามารถเลือกได้เองว่าจะเรียนอะไร จะเข้าคลาสไหน และก็ไม่บังคับว่าต้องอยู่ในโรงเรียนแต่พวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะเรียน กฎต่าง ๆ ของโรงเรียนเด็กก็จะเป็นคนกำหนด ถ้าใครอยากที่จะอยู่คนเดียว อยากเรียนคนเดียวก็ทำได้ อีกทั้งไม่มีการบ้าน ไม่มีการสอบ และไม่มีเกรดอีกด้วย อิสระสุด ๆ
อีกหนึ่งโรงเรียนประถมในถ้ำ อยู่ในประเทศจีน และเชื่อว่าเป็นโรงเรียนในถ้ำแห่งเดียวของโลก มีจำนวนทั้งหมด 6 ชั้นเรียน นักเรียน 200 คน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เกิดขึ้นเพื่อให้เด็กที่อาศัยหมู่บ้านห่างไกลได้มีโอกาสทางการศึกษา โดยหลักสูตรการเรียนจะเป็นการสอนเรื่องการใช้ชีวิต เพื่อให้เด็ก ๆ เหล่านั้นมีชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง
นอกจากโรงเรียนชานชาลาแล้ว อินเดียยังมีโรงเรียนใต้สะพานอีกด้วย ซึ่งเป็นโรงเรียนที่จัดการโดยเหล่าจิตอาสาที่ทำเพื่อเด็กยากจน ที่ไม่มีโอกาสได้เรียนในโรงเรียน โรงเรียนแห่งนี้อยู่ในนิวเดลี ใต้กับทางด่วน มีจิตอาสาเป็นคนสอนเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การนับเลข และภาษาอังกฤษ โรงเรียนนี้มีมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว มีเด็กนักเรียนประมาณ 300 คน
โรงเรียนเวทมนต์ที่ซาเล็ม ไม่มีหลักสูตรที่เหมือนกับคนอื่นแต่อย่างใด แต่จะเป็นโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับแม่มด เวทมนต์ มีนักเรียนกว่าสี่หมื่นคนที่ลงทะเบียนคอร์สนี้ในโลกออนไลน์ แต่โรงเรียนแห่งนี้ก็มีอยู่จริงตั้งอยู่ในเมืองซาเล็ม รัฐแมซาชูเซส ที่ถ้าใครจะเดินทางมาเรียนก็ย่อมได้
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
https://theirworld.org/news/15-of-most-unusual-schools-in-the-world
