โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'อนุทิน'ประเมิน'ไวรัสโคโรนา' แพร่ระบาดส่อนาน6เดือน

เดลินิวส์

อัพเดต 28 ม.ค. 2563 เวลา 08.51 น. • เผยแพร่ 28 ม.ค. 2563 เวลา 08.37 น. • Dailynews
'อนุทิน'ประเมิน'ไวรัสโคโรนา' แพร่ระบาดส่อนาน6เดือน
“อนุทิน”แจงผู้ป่วยโคโรนา 6 รายใหม่ เป็นทัวร์กลุ่มเดียวกันกับผู้ป่วยกลุ่มแรก แจงพบคนป่วยเยอะเป็นการยืนยันประสิทธิภาพการตรวจโรค ไม่ถือเป็นความล้มเหลวในการควบคุมโรค ประเมินการแพร่ระบาดอาจนานถึง 6 เดือน ยืนยันยังเอาอยู่ วอนขอกำลังใจตำหนิได้แต่อย่าด่าแบบไม่สร้างสรรค์

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลักงานประชุม ครม. ว่า ตนได้รับรายงานยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 6 รายใหม่แล้ว และได้รายงานนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยการพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากการตรวจที่เข้มข้นขึ้น แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะพบผู้ป่วยแล้ว 14 ราย แต่ 8 รายแรกหายแล้ว และมีการเดินทางกลับประเทศแล้ว 3 ราย รอเดินทางกลับอีก 2 ราย ส่วนอีก 3 รายที่รักษาตัวอยู่ได้รับรายงานว่าอาการหายแล้ว ผลแลปเบื้องต้นเป็นลบแล้ว  เชื้อไม่มีแล้ว แต่ต้องรอการตรวจซ้ำเพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจว่าให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้หรือไม่ ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย ก็ยังมีประวัติที่สามารถโยงไปถึงเมืองอู่ฮั่นได้ และอยู่ในคณะทัวร์เดียวกันกับผู้ป่วยชุดแรก บางคนเป็นสามี บางคนเป็นภรรยา บางคนเป็นหัวหน้าทัวร์ ส่วนระดับความรุนแรงก็เหมือนเดิม และตอนนี้อยู่ในมือหมอแล้วค่อนข้างที่จะปลอดภัย  

ทั้งนี้การควบคุมการระบาดของโรคยังอยู่ในกรอบที่เราควบคุมได้ แต่ยิ่งเราตรวจเราก็จะยิ่งเจอ เพราะเราไม่สามารถห้ามผู้ป่วยให้เดินทางไปไหนมาไหนได้ เพราะขณะเดินทางผู้ป่วยอาจขจะยังไม่แสดงอาการ อย่างไรก็ตามยังมีความเชื่อมั่นว่าเชื้อนิวโรโคโรนาไวรัส 2019 สายพันธุ์ใหม่ ยังไม่รุนแรงเท่า ซาร์สและเมอร์ส และจากการประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมควบคุมโรค ก็ยังยืนยันว่าอยู่ในวิสัยที่ควบคุมสถานกรณ์ได้

อย่างไรก็ตามมีการประเมินว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะกินระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งสมัยซาร์สและเมอร์ส มีการวางไว้ 9 เดือน แต่กรณีไวรัสอู่ฮั่น เนื่องจากประเทศจีนซึ่งเป็นต้นทางมีมาตรการควบคุมที่เข้มข้น ก็น่าจะทำให้การควบคุมโรคในประเทศไทยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“เราไม่ได้วัดว่าการที่พบคนป่วยมากๆเป็นความล้มเหลว แต่ทางการแพทย์ยิ่งพบคนป่วยเท่ากับเป็นการยืนยันประสิทธิภาพในการหาคนป่วยเจอ ส่วนความล้มเหลวจะเกิดขึ้นต่อเมื่อรักษาไม่ได้ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไม่ได้ ไม่รู้ว่าผู้ป่วยแต่ละรายอยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้ผู้ป่วยทุกรายเราทราบว่าอยู่ที่ไหนทั้งหมด มีการติดต่อทั้งบริษัททัวร์ ทั้งญาติ และตัวผู้ป่วย และเราได้ประสานกับโรงพยาบาลเอกชนว่าหากมรีคนไข้จากจีน มาจากเมืองอู่ฮั่น มีไข้สูงเกิน 38 องศา และมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรนา เขาก็จะติดต่อมาที่ศูนย์ปฏิบัติการฯของกระทรวงสาธารณสุข

ดังนั้นขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขเอาอยู่ ผมกับทีมงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำงานด้วยความเข้าใจกัน สนับสนุนกันทั้งกำลังใจ กำลังแรง กำลังสมอง ซึ่งก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถรักษาสถานการณ์นี้ได้ และขอกำลังใจอย่าดุด่าอะไรที่ไม่สร้างสรรค์ แนะแนวได้ ตำหนิได้ หากแนะนำอย่างมีเหตุมีผล เป็นคำแนะนำที่ดีเราก็พร้อมจะทำตาม”นายอนุทินกล่าว

ทั้งนี้นายกฯได้ ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติให้ดูแลเรื่องนี้ โดยมอบหมายตนเป็นประธานกรรมการฯ โดยมีรัฐมนตรีหลายกระทรวง ข้าราชการ และผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งตนได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และเรื่องระบาดวิทยามาเป็นกำลังสำคัญ และเคยร่วมกันทำงานตั้งแต่ครั้งปราบไข้หวัดนก และไข้หวัดใหญ่มาแล้ว ส่วนอำนาจการดำเนินการของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นนี้จะมีอำนาจกำหนดนโยบาย สั่งการ ให้มีความร่วมมือ ใช้อำนาจข้ามกระทรวงได้ ซึ่งคิดที่ผ่านมาทุกคนให้ความร่วมมือดี และย้ำให้เกิดความมั่นใจกับผู้ปฏิบัติว่าเราจะคอยสนับสนุน เป็นเจ้าภาพเรื่องนี้ ทั้งเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ การใช้งบประมาณ ซึ่งนายกฯก็ได้แนะนำว่าเรื่องการดูแลรักษาตามหลักมนุษยธรรมนั้นต้องทำไปเลย ซึ่งเรามีงบฉุกเฉินที่ทำให้การบริหารจัดการสถานการณ์เป็นไปโดยปลอดภัยที่สุด

เมื่อถามเรื่องข้อกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาเวลาป่วยนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ในกรณีของคนไทยไม่ต้องกังวลเพราะอยู่ภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติอยู่แล้ว ส่วนคนจีนเราก็จะให้การรักษาในทางมนุษยธรรม เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อต่อ ซึ่งหากเราเจอใครป่วยก็ต้องรักษาก่อน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายหากเราเรียกเก็บได้เราก็เรียกเก็บ แต่หากเรียกเก็บไม่ได้เราก็ต้องถือว่าเป็นต้นทุนที่เราทำให้คนไข้ไม่แพร่เชื้อให้คนไทยในประเทศ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากคนไข้มีปัญญาเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เขาต้องมีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะทราบว่าหากเกิดอาการป่วยจะต้องหาการรักษาที่ไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่ง นายอนุทินได้เกิดอาการไอ พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวทีเล่นทีจริงว่า “ผมเริ่มมีการการไอแล้วเหมือนกัน” พร้อมยกมือปิดปาก ก่อนจะแนะนำว่าเวลามีอาการไอควรปิดปากและออกนอกกลุ่มคน เพราะถือเป็นเรื่องที่ต้องเกรงใจกัน.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0