โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"อนุทิน" บินเจ็ตส่วนตัวตรวจเยี่ยม 2 รพ.ใน จ.เลย เพื่อรับฟังปัญหา

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 20 ก.ค. 2562 เวลา 07.07 น. • เผยแพร่ 20 ก.ค. 2562 เวลา 07.10 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

"อนุทิน" บินเจ็ตส่วนตัว ลุยตรวจเยี่ยม รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย และรพ.เชียงคาน จ.เลย เพื่อรับฟังปัญหาการทำงาน การบริหารจัดการของรพ. รวมทั้งเข้าให้กำลังใจผู้ป่วย ถือเป็นภารกิจแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง รมว.สธ.

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ก.ค.62 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมคณะ เดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่สนามบิน จ.เลย เพื่อตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยมีนายโสภณ สุวรรณ์รัตน์ รองผู้ว่าฯ เลย นายชนาส ชัชวาลวงศ์ รองผู้ว่าฯ เลย นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย นพ.ภักดี สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย นายธนยศ ทิมสุวรรณ ส.ส.เขต 3 จ.เลย พรรคภูมิใจไทย ทหาร ตร.สภ.ด่านซ้าย จนท.รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย อสม.กว่า 100 คน ให้การต้อนรับ 

จากนั้น เดินทางไปยังอาคารสีลวิสุโธ อาคารพักฟื้นและแรกรับเด็กเกิดใหม่ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแม่ที่เพิ่งคลอดลูกและมอบของขวัญและร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึก จากนั้นไปยังห้องประชุม รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย รับฟังสรุปการทำงาน การบริหาร และปัญหาสุขภาพดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยมี นพ.ภักดี สืบนุการณ์ ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย เป็นผู้บรรยายนาน 1 ชม. และพบปะ ฟังปัญหา กับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ที่มารับ จนเสร็จสิ้นภารกิจ

จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง รพ.เชียงคาน เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกด้วยมุ้งสี เยี่ยมผู้ป่วย และเยี่ยมชมการทำงานของ จนท.รพ.เชียงคาน และพบปะ อสม. 

การตรวจเยี่ยม รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย และ รพ.เชียงคาน ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ถือเป็นงานวันแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง รมว.สธ. โดยคณะนายอนุทิน มีกำหนดการเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเครื่องบินส่วนตัวที่สนามบิน จ.เลย เวลา 17.00 น.

จากนั้นนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับรายงานผู้ป่วย จำนวน 4,503 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 49,174 ราย เสียชีวิต 64 ราย คาดว่าทั้งปีจะพบผู้ป่วยถึง 130,000 ราย ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เข้มงวดระบบเฝ้าระวังโรค ให้สถานบริการทั้งรัฐและเอกชนต้องรายงานเมื่อพบผู้ป่วย เพื่อให้ควบคุมโรคได้ทันเวลา เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน เมื่อพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ที่กำหนด รณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ประสานท้องถิ่นพ่นสารเคมีกำจัดยุง เตรียมความพร้อมเรื่องการรักษาพยาบาล โดยจัดให้มีแพทย์ที่ปรึกษา มีคู่มือการดูแลรักษา และจัดอบรมแพทย์จบใหม่ ซึ่งส่วนกลางพร้อมสนับสนุนการทำงานเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยมากที่สุด

"ขอแนะนำพี่น้องประชาชน ท่านต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้มีแหล่งน้ำนิ่ง น้ำขังอยู่ในบ้าน เห็นยุงต้องรีบกำจัดอันนี้เป็นสิ่งแรกที่จะต้องรีบทำ สิ่งที่สองก็คือถ้าสมาชิกในบ้านมีไข้ในช่วงนี้ก็ขอให้ตั้งสมมติฐานว่าติดเชื้อไว้ก่อนอย่ากินแค่ยาแก้ปวดแล้วก็รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ควรจะรีบไปถึงมือแพทย์ให้เร็วที่สุด ผมจะกำชับทางแพทย์ หากมีผู้ป่วยเข้ามาด้วยอาการไข้ ก็ให้ตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไข้เลือดออก" นายอนุทินกล่าว

สำหรับจังหวัดเลย ตั้งแต่ต้นปี พบผู้ป่วย 832 รายเสียชีวิต 2 ราย จำนวนผู้ป่วยมากเป็นอันดับ 8 ของประเทศ ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ จัดอบรมแพทย์ พยาบาล เรื่องการรักษาดูแล ประสานท้องถิ่นดูแลในพื้นที่สาธารณะ บ้านเรือนประชาชน สนับสนุนยาเวชภัณฑ์ เครื่องพ่นยุง โดยที่โรงพยาบาลเชียงคานมีนวัตกรรมการควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออก นำมุ้งมากางให้ผู้ป่วยไข้เลือดออกที่นอนโรงพยาบาล แบ่งตามระยะของโรค โดยสีขาว-ระยะไข้ สีชมพู-ระยะวิกฤติ สีเขียว-ระยะพักฟื้น ช่วยให้ง่ายต่อผู้ดูแลผู้ป่วยและการป้องกันการถูกยุงกัดไม่ไปแพร่เชื้อต่อ ซึ่งเป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่ป้องกันด้วยตัวเอง

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0