'อนันดา' ปัดเป็นพระเอกติสท์ ทำสาวไฮโซท้อง ชี้ถ้าเป็นจริง ควรภูมิใจ

‘อนันดา’ ปัดเป็นพระเอกติสท์ ทำสาวไฮโซท้อง ชี้ถ้าเป็นจริง ควรภูมิใจ

วันที่ 11 ธ.ค. ที่ โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน ในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ สิงสู่อนันดา เอเวอริงแฮม มาร่วมงานในฐานะนักแสดงนำ ได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ ถึงกรณีที่เป็นหนึ่งในพระเอกติสท์ ที่ถูกสงสัยว่า ทำสาวไฮโซตระกูล ดังท้อง

อนันดา เผยว่า “ผมขอแก้ข่าวก่อนว่า ผิดตั้งแต่ต้นครับ เพราะว่าผมไม่ใช่แนวติสท์ครับ ผมสายแบ๊วครับ(หัวเราะ) เข้าใจให้มันถูกบ้าง ไม่หรอกครับ คือจริงๆ ผมไม่ค่อยได้เป็นคนที่ติดตามข่าวตรงนี้สักเท่าไหร่ แต่อันนี้มันมีคนถามผมเยอะมาก ตอนแรกผมก็บอกว่าเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย ถ้ามันจะมีเรื่องท้องเกิดขึ้นมา คือมันเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่ เป็นเรื่องใหญ่เลย คือผมไม่ปล่อยให้มันเป็นข่าวลืออย่างนี้อยู่แล้ว ผมไม่จัดการกับมันอย่างนี้”

รู้สึกอย่างไรบ้าง ที่คนพุ่งเป้ามาที่เราเป็นคนแรกเลย
“มันก็หลายคนนะ คนก็ส่งข่าว ส่งคลิปมาให้ผมดู คือในส่วนผมมันก็ขำ ในส่วนแฟนเขาก็ตกใจนิดหนึ่งเพราะว่าเขาไม่ได้อยู่วงการนี้ พอเพื่อนเขาถาม วันๆ เขารับสายไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยสาย ตัวเขาจะตกใจ คืออย่างผม ผมค่อนข้างเข้าใจ ผมก็อธิบายกับเขาว่าโอเค ข่าวพวกนี้บางทีมันเกิดขึ้น อายุขัยมันอาจจะไม่ได้นานเท่าที่ยูคิดหรอก ไม่ต้องมองเป็นเรื่องซีเรียส เพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่าความจริงมันคืออะไร”

ไม่ได้เป็นตามที่ข่าวลงใช่ไหม
“ไม่ๆ คือผมไม่จัดการกับเรื่องที่มันซีเรียสขนาดนี้แบบนี้อยู่แล้ว แล้วถ้ามันมีเรื่องอย่างนี้จริงๆ ผมไม่ปล่อยให้มันเป็นข่าวลือ เพราะมันเป็นสิ่งที่คนเราควรจะภูมิใจ แล้วมันไม่ควรจัดการอย่างนี้อยู่แล้วครับ”

แล้วจริงๆ เรื่องของเราจะมีวี่แววเร็วๆ นี้ไหม
“(หัวเราะ) ยังไม่ได้คิดครับ แล้วก็อย่างที่รู้กันอยู่ ว่าผมเป็นคนที่มองเรื่องแต่งงานหรือเรื่องมีครอบครัวเป็นจุดหมายที่ใหญ่ เป็นเป้าหมายใหญ่สุดในชีวิต แต่ถ้ามันเกิดขึ้นผมก็ไม่ได้แอนตี้ แต่มันไม่ใช่เป้าหมาย”

ข่าวที่เกิดขึ้นมันมีผลกระทบอะไรกับตัวเราหรือแฟนเราไหม
“คือแรกๆ มันก็ขำอย่างเดียว แต่พอ 2 วันเข้าไปยังไม่เลิก 3 วันเข้าไปคนยังโทรหาเขาไม่เลิก เขาก็เริ่มมีอาการนอยด์นิดนึง ต้องบอกเขาตรงๆ ว่ามันเป็นแค่ข่าว เราก็รู้ทั้งรู้อยู่ว่าอะไรคือความจริง สิ่งที่น่ารักมาก คือทางครอบครัวเขาและตัวเขาดูแลตรงนี้ได้ดี เลยไม่มีดราม่าอะไร”

จริงๆ เราไม่ได้ซีเรียสเกี่ยวกับเรื่องท้องแล้วต้องแต่ง หรือท้องก่อนแต่งใช่ไหม?
“คือผมเข้าใจได้ในมุมของผู้หญิง เพราะมันเป็นข่าวที่ฟังดูแรง ผมเองก็คงมีความชะล่าใจนิดนึง และมองข้ามเป็นเรื่องตลก แต่พอมันหลายวันเข้า เราต้องเข้าใจเขาว่าเขาเป็นผู้หญิง และข่าวชนิดนี้จริงๆ มันดูเป็นข่าวลบสำหรับฝั่งผู้หญิง ต้องเซนซิทีฟตรงนี้หน่อย เลยต้องคุยกันและอธิบายกับเขาว่าไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงก็ตามเรารู้ว่าความจริงคืออะไร รู้ด้วยว่าเดี๋ยวยังไงต้องคุยกับพี่ๆ ทุกคนวันนี้อยู่ดี เลยบอกเขาให้ใจเย็นสักวันสองวันก็แล้วกันนะ”

ทางเขาเองค่อนข้างคิดมากเหมือนกัน?
“ไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็มีความกังวลเกิดขึ้น ไม่ได้ถึงขั้นเครียด ก็ที่เราบอกว่าทางตัวเขา ทางครอบครัวเขาค่อนข้างใจเย็น และจัดการกับสถานการณ์ได้ค่อนข้างดีมาก ซึ่งก็ทำให้ไม่มีดราม่า เขาและครอบครัวเขาก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เรา”

ตามข่าวว่าฝ่ายหญิงเป็นไฮโซ ของเราจัดอยู่ในหมวดนั้นด้วยไหม?
“ไม่เชิงครับ เพราะเราไม่ได้มองเขาด้วยเรื่องของฐานะอยู่แล้ว ก็ไม่ถึงขั้นเป็นสาวสังคม คือผมมองเขาที่ตัวเขา และอาชีพที่เขาทำ ซึ่งถ้าจะบอกว่าไฮโซ ผมไม่ใช่คนที่จะมาตัดสินว่าใครคือไฮโซ แต่ถ้าสมมติว่าผมบอกว่านี่คืองานเขา นี่คืออาชีพเขา ผมบอกได้ว่านี่คือสายงานเขา เขาทำงานนี้ และเขาเป็นคนนี้ เป็นลูกของคนนี้”

วันนี้ก็ถือโอกาสเปิดใจเคลียร์?
“ครับ รู้ว่าต้องตอบคำถามตรงนี้ วันแรกเรายังคิดว่าเดี๋ยววันสองวันก็คงมีใครไปสร้างเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาแล้วเดี๋ยวเขาก็ลืม แต่กลายเป็นสามสี่วันผ่านมาก็ยังไม่เลิกเลย ตกลงใคร (หัวเราะ)”

จะยิ่งตอกย้ำไหมว่าเราจะไม่เปิดตัวแฟนจริงจังเพราะกระแสข่าว?
“ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ในเมื่อเขาไม่ได้ทำงานตรงนี้ เขาไม่ได้อยู่ในวงการนี้ มันไม่ใช่สิทธิ์ของผมที่จะเอาเขามาอยู่ตรงนี้ เอาเขามาอยู่ในข่าว ผมไม่ปฏิเสธอะไรอยู่แล้ว ผมไม่ได้เปลี่ยนชีวิตผม ชีวิตประจำวันผมเหมือนเดิม เราคบกันไม่ต่างจากที่คนอื่นเขาคบกัน เพียงแต่ว่ามันก็ต้องมีความเข้าใจระหว่างกันด้วยว่านี่คืองานผม งานผมก็ต้องมีตรงนี้ ซึ่งผมไม่มีสิทธิ์เอาตรงนี้ไปอยู่ในชีวิตเขา ต้องให้เกียรติเขาตรงนี้ เลยไม่มีปัญหาอะไรครับ ทุกอย่างก็ดีครับ”

คบกันมานานหรือยัง?
“เมื่อต้นปีครับ”

เขามีไลฟ์สไตล์ตรงกันกับเรายังไง?
“คือเข้ากันดีครับ อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์มาก่อนหน้านี้ ผมแค่รู้สึกว่า ก่อนที่ผมจะคบกับใครในช่วงเวลานี้ของชีวิต ผมรู้สึกว่าผมต้องมองตัวเองให้ขาด ต้องทำอะไรให้ละเอียดขึ้น อันนั้นสำคัญ และการที่เราเข้ากันได้หรือไม่ได้นั้น มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถ้ามันจะดีไปเรื่อยๆ ในอนาคต มันต้องรู้จักมองตัวเองด้วย”

ด้วยความที่อายุเรา 36 ปีแล้ว ไม่อยากมีลูกบ้างหรอ เพราะคนในวัยนี้ก็มีกันหมดแล้ว?
“ไม่ได้รีบครับ อย่างที่เคยบอกมันไม่ใช่เป้าหมาย แต่ถ้าพร้อมแล้วมีก็โอเค ไม่ได้ติดอะไรครับ แล้วก็ไม่ได้รีบ ในอีกมุมหนึ่งผมรู้สึกว่าโลกใบนี้มันก็มีคนเยอะอยู่แล้ว สมมติผมไม่ได้มีลูกที่เป็นของผมเองก็ได้เช่นเดียวกัน ถ้าเราจะเอาเด็กมาเลี้ยงก็เป็นไปได้เหมือนกัน คำว่าครอบครัวมันไม่ได้ถูกฟิกด้วยการแต่งงานและมีลูก รักกันแล้วถ้าวันหนึ่งผมจะมีลูกที่มันไม่ได้เกิดจากตัวผมเองก็ไม่มายด์เหมือนกัน มันมีหลายเวอร์ชั่นที่เคยคิดไว้ แต่ไม่ได้ฟิก ไม่ได้คิดว่ามันจะอยู่ในภาพไหน”

แฟนเราคิดแบบเราไหม
“คือเขาอายุน้อยกว่าผม ในเรื่องของครอบครัว เขายังไม่คิดอยู่แล้ว เขายังอยู่ในวัยที่โฟกัสเรื่องงานของเขาครับ มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะคิด”