อธิบดีกรมราชทัณฑ์สวนกลับข่าวโครงการจ้างก่อสร้างเรือนจำ 4 แห่งไม่โปร่งใส เผยทำถูกต้องตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง คาดอาจเป็นความพยายามของผู้ไม่ชนะการประมูลบางรายใช้ฝ่ายการเมืองเป็นเครื่องมือล้มเลิก พร้อมฝากเจ้ากระทรวงยุติธรรม ทบทวนและปรับปรุงแนวทางการทำงานร่วมกัน ระหว่างทีมงานฝ่ายการเมืองกับข้าราชการประจำอย่างให้เกียรติกันและกัน ไม่เปิดประเด็นออกสื่อรายวัน โดยไม่สอบถาม หรือเปิดโอกาสให้ส่วนราชการได้ชี้แจงอย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียก่อน
กรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมสั่งสอบด่วนกรณีบริษัทเอกชนร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรมในโครงการจ้างก่อสร้างเรือนจำ 4 แห่ง คือ ระยอง นครนายก นครศรีธรรมราช และพัทลุง เผยเหตุมีล็อกสเปกในส่วนของระบบงานเสริมความมั่นคง แฉอีกแต่ละโครงการจ้างก่อสร้างราคาสูงตั้งแต่ 646 พันล้าน จนเฉียด 2 พันล้านบาท ตั้งข้อสังเกต โครงการจ้างก่อสร้างเรือนจำกลางพัทลุง มีผู้ยื่นเสนอราคาเจ้าเดียวเท่านั้น
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ว่า โครงการก่อสร้างเรือนจำมีองค์ประกอบ 2 อย่างคือ 1.ตัวอาคารหรือโครงสร้าง 2.ระบบเสริมความมั่นคง เช่น ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control system) รั้วไฟฟ้าแรงสูง และระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ป้องกันผู้ต้องขังหลบหนีและป้องกันการลักลอบใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เคยมี ดังนั้น ระบบเสริมความมั่นคง เป็นระบบที่สำคัญ เป็นหัวใจในการควบคุมผู้ต้องขัง อุปกรณ์เหล่านี้มีหลายยี่ห้อที่ผู้ประมูลจะสามารถนำมาเสนอได้
อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวต่อว่า ผู้ร้องเรียนอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าราคาต่ำที่สุดคือผู้ชนะ โดยมิได้สนใจในความต้องการของกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องการระบบเสริมความมั่นคงนำมาควบคุมผู้ต้องขังให้ได้ประสิทธิภาพไม่เป็นภัยต่อสังคม การประกวด ราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ดำเนินการอย่างถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ ทุกประการ ทุกขั้นตอนโปร่งใส ยึดถือประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ
พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวอีกว่า ขอเรียนว่ายังไม่ได้รับคำสั่งหรือข้อสั่งการจากกระทรวงยุติธรรมให้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด การออกข่าวในเชิงลบ และตั้งธงว่าอาจจะมีการทุจริต อาจเป็นการชี้นำให้สังคมเข้าใจผิด ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร ตลอดจนขวัญและกำลังใจของผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกคน นอกจากนี้ เบื้องหลังของการร้องเรียนดังกล่าว อาจเป็นความพยายามของผู้ไม่ชนะการประมูลบางรายยื่นเรื่องร้องเรียนขึ้นมา โดยใช้ฝ่ายการเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อหาหนทางล้มเลิกโครงการที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบของทางราชการทุกประการ ไม่อยากให้ใครต้องตกเป็นเครื่องมือของขบวนการดังกล่าว
“กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลอย่างเคร่งครัดตลอดมา จนได้รับรางวัลต่างๆมากมาย อาทิ รางวัลการประเมินผลระดับคุณธรรมและความโปร่งใส จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รางวัลองค์กรที่ความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และรางวัลหน่วยงานบริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่น ด้านความโปร่งใสด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลจากสำนักงาน ก.พ. เป็นต้น” พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าว
พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวเพิ่มเติมว่า ยึดถือนโยบาย 3 ส. คือ สะอาด สุจริต และเสมอภาค เป็นหลักในการบริหารงาน ได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ซื้อขายตำแหน่ง ไม่ค้าขายหรือมีประโยชน์ทับซ้อนกับทางราชการ และไม่เบียดเบียนผู้ใต้บังคับบัญชา โดยส่วนตัวมีความเคารพและนับถือท่านรัฐมนตรีเป็นอย่างสูง แต่อยากเรียนเสนอให้มีการทบทวนและปรับปรุงแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานฝ่ายการเมืองกับข้าราชการประจำให้เป็นไปอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยยึดผลประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก ไม่เปิดประเด็นออกสื่อรายวัน โดยไม่สอบถามข้อเท็จจริงหรือเปิดโอกาสให้ทางส่วนราชการได้ชี้แจงอย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียก่อน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- "สมศักดิ์" ยันจ่ายครบตามคำสั่งศาล คดี "แพรวา" ถือว่าจบทันที
- "สมศักดิ์" ยันครอบครัว "แพรวา" หาเงินครบแล้ว เตรียมนัดเหยื่อจ่ายชดเชย
- รมว.ยธ.เต้นสอบ "กําไลEM" ห่วย
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath