โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อธิบดีกรมป่าไม้ สั่ง! หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ถอนแจ้งความดำเนินคดี ครอบครัวยาย วัย 63 ปี บุกรุก-เก็บเห็ดในสถานีฯ ย้ำ! เป็นข้าราชการ ต้องยึดหลัก 'คุณธรรม' ด้วย กรณีเก็บเห็ดไม่ได้ทำให้พื้นที่เสียหาย

สวพ.FM91

อัพเดต 10 ก.ค. 2563 เวลา 09.44 น. • เผยแพร่ 10 ก.ค. 2563 เวลา 09.44 น.
อธิบดีกรมป่าไม้ สั่ง! หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ถอนแจ้งความดำเนินคดี ครอบครัวยาย วัย 63 ปี บุกรุก-เก็บเห็ดในสถานีฯ  ย้ำ! เป็นข้าราชการ ต้องยึดหลัก 'คุณธรรม' ด้วย กรณีเก็บเห็ดไม่ได้ทำให้พื้นที่เสียหาย

วันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีนายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีหนังสือมอบหมายเจ้าหน้าที่คนหนึ่งให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี, นางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี และนางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี ชาวบ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ  ข้อหาบุกรุกเข้าไปในพื้นที่บริเวณสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ และลักลอบเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่บริเวณสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ที่เขต ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ตามข่าวที่มีการสนอข่าว ไปก่อนหน้านี้
 
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวหลังจากทราบเรื่องดังกล่าว ได้โทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้ นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ดำเนินการถอนแจ้งความดำเนินคดีกับประชาชน ทั้ง 3 คนแล้ว เพราะเห็นว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมากมาย อีกทั้งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตนได้สั่งการไปยังหน่วยงานกรมป่าไม้ทั่วประเทศแล้วว่า ให้พื้นที่ผ่อนปรนให้ประชาชนเข้าพื้นที่ไปหาเก็บของป่าเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการดำรงชีวิต เช่น เก็บเห็ด หาหน่อไม้ได้ แต่ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในพื้นที่นั้นๆ
 
“บางกรณี จะไปยึดกฎหมายแบบ 100% ไม่ได้ ต้องดูหลักคุณธรรมด้วย กรณีเก็บเห็ด ไม่ได้ทำให้พื้นที่เสียหาย และตอนนี้ได้มีการถอนแจ้งความในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว
 
ด้าน พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ  กล่าวว่า  วานนี้ (9 ก.ค.) เวลา 14.00 น. นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ แก้วคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ  โดยแจ้งความจำนงว่า ไม่ติดใจและไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับ นางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี, นางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี และนางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี  ชาวบ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ อีกต่อไป  เนื่องจากบุคคลทั้ง 3 คนได้เข้าไปภายในสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษโดยไม่ได้ขออนุญาตและไม่มีทรัพย์สินหรือสิ่งของมีค่าใดๆ ของทางราชการได้รับความเสียหาย ซึ่งทางสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ได้พิจารณาโดยละเอียดถี่ถ้วนแล้วเห็นว่า บุคคลทั้ง 3 คนไม่มีเจตนาที่จะบุกรุกเข้ามาในสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษแต่อย่างใด  และเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน
 
“นายประธาน จึงมาขอถอนเรื่องแจ้งความดำเนินคดีต่อทั้ง 3 คน ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเอาไว้แล้ว ตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี สภ.เมืองศรีสะเกษ ข้อที่ 21 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 เวลา 14.00 น.”
 
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ กล่าวต่อ คดีนี้จากการสอบสวนแม้  นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ ผู้กล่าวหาที่ 2 มอบอำนาจให้ นางสาวฐรัชญ์ เนียมคำ ผู้กล่าวหาที่ 1 ร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกในพื้นที่สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษและเข้ามาเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อมาผู้กล่าวหาที่ 2 ได้มาถอนคำร้องทุกข์ไปจากพนักงานสอบสวน ก็ไม่ทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไป  เนื่องจากเป็นการกล่าวหาในความผิดฐานร่วมกันบุกรุก ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) แต่จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ในภาวะปัจจุบันอยู่ในภาวะป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 ประกอบกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบอาชีพเกษตรกรและรับจ้างทั่วไป หาเช้ากินค่ำ ทำให้เพิ่มความยากลำบากในการประกอบอาชีพ  ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้พากันไปเก็บเห็ดในป่าบ้านหนองม่วง-หนองสวง ตำบลหนองครก อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ และได้เก็บเห็ด (เห็ดขม) ซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติมาได้เพียงเล็กน้อย ทำให้ยังไม่เพียงพอในการประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัว
 
ขณะเกิดเหตุ ระหว่างเดินทางกลับ ได้พากันแวะเข้าไปในสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ที่เกิดเหตุ ซึ่งสภาพพื้นที่เป็นป่าเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ มีต้นไม้นานาพรรณขึ้นเป็นจำนวนมาก  ทำให้ผู้ต้องหา 3 คนเข้าใจว่า น่าจะมีเห็ดขึ้นอยู่ จึงได้เข้าไปในป่าเพื่อเก็บเห็ดเพิ่มเติม แต่ยังไม่ทันได้เก็บเห็ดก็มาพบกับ ผู้กล่าวหาที่ 2 ซึ่งผู้กล่าวหาที่ 2 ได้สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ถึงสาเหตุที่เข้ามาในที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยอมรับว่า ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาจริง ผู้กล่าวหาที่ 2 จึงยืนยันที่จะดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กรณีเข้ามาบุกรุกเข้ามาเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต
 
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ กล่าวว่า  แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ร่วมกันไกล่เกลี่ยแล้วแต่ไม่เป็นผล ผู้กล่าวหาที่ 2 ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้กล่าวหาที่ 1 มาร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คน  พิจารณาจากสถานที่เกิดเหตุแล้ว พบว่า ไม่มีการกร่อน สร้าง หรือเผา  หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน และไม่มีทรัพย์สินของทางราชการเสียหายจากการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน  อีกทั้งสิ่งของที่ตรวจยึดได้จากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีเพียงตะกร้าไม้จักสานคนละ 1 ใบ ภายในมีเห็ด (เห็ดขม) ซึ่งนำมาจากที่อื่นเพียงเล็กน้อย และเสียมขนาดเล็กคนละ 1 เล่ม อันเป็นอุปกรณ์เครื่องมือในการประกอบอาชีพในฐานะเกษตรกรเท่านั้น และผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอน้ำเกลี้ยง ซึ่งอยู่นอกพื้นที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ  อาจจะไม่ชำนาญเส้นทางและไม่ทราบว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ราชการ เนื่องจากมีสภาพเป็นผืนป่าจำนวน 100 ไร่
 
“แม้ข้อเท็จจริงจะครบองค์ประกอบภายนอก แต่พิจารณาจากพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้นแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 มิได้มีเจตนาอันเป็นองค์ประกอบภายใน อันจะเป็นการกระทำผิดร่วมกันบุกรุกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) การกระทำของผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดดังกล่าว ทางคดีจึงเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2)” พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ กล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ดูเพิ่มเติม สวพ.FM91