จากเหตุการณ์ที่ ลีน่าจัง เคยโพสต์คลิปลงในโซเชียล แสดงความไม่พอใจ หลัง รปภ. ห้างดังย่านสยาม กรุงเทพฯ ค้นกระเป๋า อ้างว่าไปมาหลายที่ไม่มีใครค้นกระเป๋า แต่กลับมาถูก รปภ. ที่ห้างดังกล่าวค้น โดยวันนั้นสะพายกระเป๋าสองใบ ราคานับแสนบาท แว่นราคาหมื่นกว่าบาท เสื้อก็ยี่ห้อดัง เป็นเหมือนการไม่ให้เกียรติ และต้องการให้ รปภ. มาขอโทษ โดยเหตุเกิดวันที่ 14 ธ.ค. 61 (อ่าน : รปภ.ช้ำใจตกงาน โดน “ลีน่าจัง” โพสต์ด่า – เจ้าตัวฉะสมควร แนะมองลูกค้าเป็นพระเจ้า)
วันที่ 19 มี.ค. 62 “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.20 น. ได้เชิญ นายยอดขวัญ เพ็งสกุล อดีต รปภ., นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และนายกาย ผู้เสนอให้ความช่วยเหลือนายต้น ร่วมพูดคุยในรายการ
นายยอดขวัญ เพ็งสกุล อายุ 20 ปี อดีต รปภ. เปิดเผยว่า ตนไม่เคยรู้จักลีน่าจังมาก่อน ไม่เคยติดตามคนที่ไปด่าคนอื่นในโซเชียลมาก่อน วันเกิดเหตุ 14 ธ.ค. 61 เวลาประมาณ 14.00 น. ตนขอตรวจกระเป๋าลีน่าจัง เพราะว่าเห็นลีน่าจังสวมแว่นตา และถือกระเป๋า 2 ใบเข้าห้าง ตนบอกว่า “ขออนุญาตตรวจกระเป๋านะครับ” และก้มศีรษะลง ลีน่าจังก็วางกระเป๋าบนโต๊ะให้ตรวจ ตนบอกต่อว่า “เปิดกระเป๋าเลยครับ” ลีน่าจังบอกว่า “ไม่รู้จักกูหรอ กูลีน่าจัง เน็ตไอดอล กูไปห้างไหนไม่เคยมีใครตรวจ กูจะฟ้อง” ตนก็ยืนงง และคิดว่าจะฟ้องได้อย่างไร เพราะไม่ได้ทำผิด จากนั้น ตนไปถามเพื่อน เพื่อนบอกว่า “มึงโดนแล้ว” เพราะลีน่าจังเป็นคนดัง จากนั้น ไม่ถึง 30 นาที หัวหน้าก็โทรมาบอกให้ตนไปขอโทษลีน่าจังเพื่อให้เรื่องจบ
จากนั้น ตอนที่ลีน่าจังบอกให้ตนไหว้ขอโทษลูกเพจ ตนรู้สึกแย่มาก เพราะไม่ได้ทำผิด แต่ต้องยกมือไหว้ และมองว่าเป็นการเอาความรวยมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความจนของตน อีกทั้งลีน่าจังบอกว่าตัวเองรวย ใส่เสื้อผ้าแพง ไม่ควรถูกตรวจกระเป๋า ซึ่งตนทำงานเป็น รปภ. เพื่อรักษาความปลอดภัย ไม่ได้สังเกตเสื้อผ้าราคาแพงของใคร หลังจากนั้น ตนเดินออกมาก็ร้องไห้ และบอกหัวหน้าว่าขอลาออก เพราะตนเจ็บเกินไป คนเราจะรวยหรือจนก็คนเหมือนกัน หัวหน้าก็บอกว่าไม่ต้องออก เพราะเพื่อนร่วมงานทุกคนก็รู้ว่าตนไม่ผิด ตนกลับไปนอนร้องไห้ทุกคืน คิดเสมอว่าต้องหาเงินเลี้ยงแม่ และหลานอีก 2 คน ที่เป็นลูกของพี่สาวตน
ทั้งนี้ ที่ลีน่าจังให้สัมภาษณ์ว่า ตนทำตัวไม่ดี จึงถูกให้ออกจากงาน ยืนยันว่าตนไม่เคยทำงานไม่ดี และไม่เคยโดนตำหนิ แต่ในโซเชียลก็รุมด่าตน ว่าเป็น รปภ. นิสัยแย่ และที่ลีน่าจังบอกว่าให้คิดว่าลูกค้าคือพระเจ้า แต่ตนคิดว่า“ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า ลูกค้าเป็นเพียงคนสำคัญ ถ้าไม่มีลูกค้าคือไม่มีเราครับ”
นายยอดขวัญ กล่าวว่า ตนจบการศึกษา ป.6 ก่อนหน้านี้ รายได้จากการเป็น รปภ. วันละ 500 บาท ลาออกมาแบกปาล์มขาย ต่ำสุดที่ได้วันละ 45 บาท และตั้งแต่ลาออก ตนไม่ได้บอกแม่ เพราะกลัวแม่เสียใจ แต่แม่รู้เรื่องเพราะมีคนเอาคลิปมาให้ดู แม่ก็เสียใจมาก และบอกตนว่า ไม่อยากให้ไปทำงานไกล ๆ เพราะกลัวจะเจอแบบเดิมอีก
อย่างไรก็ตาม ตนไม่เกลียดลีน่าจัง แต่ขอให้ไม่ไปทำกับคนอื่น เพราะเป็นการทำลายชีวิตคน เช่นตนที่อับอายจนต้องลาออก เพราะมีคนมาว่า ล้อเลียนเหมือนเป็นตัวตลก ทั้งนี้ ถ้าได้คุยกับลีน่าจัง อยากบอกว่า “ถ้ายินดีจะขอโทษตนก็ยินดี แต่ไม่ต้องยกมือไหว้ เพราะอายุมากรุ่นแม่ตนแล้ว แค่คำขอโทษสักคำก็ดีครับ” ซึ่งตนไม่ติดใจ และถ้าหากให้เงิน ตนก็จะไม่รับแม้แต่บาทเดียว เพราะไม่ต้องการให้เงินมาฟาดหัว ตนหาเงินเองได้ เพราะคำขอโทษมีค่ามากกว่าเงินล้าน
ก่อนหน้านี้ ตนเคยทำงานร้านเหล้า เจอคนเมาอมเบียร์พ่นใส่หน้า ตนไม่โกรธ เพราะคนเมาไม่มีสติ แต่เหตุการณ์ของลีน่าจัง ตนโกรธที่ถูกย่ำยีศักดิ์ศรี นอกจากนี้ หลังจากเป็นข่าว มีคนให้กำลังใจ ตนรู้สึกดีขึ้นมาก อีกทั้งมีคนช่วยเหลือ ให้เป็น รปถ. และคิดว่าหลังเลือกตั้งแล้ว ตนจะกลับไปทำงาน รปภ. เช่นเดิม และขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า ห้างสรรพสินค้าต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยเป็นปกติ เนื่องจากเป็นย่านราชประสงค์ ที่ต้องระมัดระวังเข้มข้น ซึ่งลูกค้าก็ต้องให้ตรวจตามระเบียบ ถ้าหากไม่ให้ตรวจ ก็ไม่ต้องเข้าห้าง
ส่วนในคลิปที่ลีน่าจังพูดคล้ายหยามศักดิ์ศรีนายต้นนั้น ในทางกฎหมาย การบันทึกคลิปลักษณะนี้ คนทั่วไปเห็นชัดว่าเป็นการประจาน และลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น นายต้นก็สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้เช่นกัน เพราะการให้ รปภ. ขอโทษ ทำไมต้องไลฟ์ลงโซเชียลให้เขาอาย ถ้าให้ขอโทษปกติ เรื่องก็จบได้ ทั้งนี้ ตนคิดว่าสามารถคุยกัน ปรับความเข้าใจได้ เพราะเชื่อว่าลีน่าจัง น่าจะเป็นคนจิตใจดี หากคุยกันได้ จะได้คลายปมในใจของนายต้นด้วย
นายกาย ผู้เสนอให้ความช่วยเหลือนายต้น เปิดเผยว่า ตนก็ทำอาชีพ รปภ. เป็นผู้จัดการฝ่ายประสานงาน และเห็นข่าวจึงเข้าใจความรู้สึกของนายต้นดี ซึ่งที่ทำงานตน มีรายได้วันละ 530 บาท
ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายต้น กับลีน่าจัง แต่ส่วนตัวทำงานในสายอาชีพเดียวกันกับนายต้น มองว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และสุจริต มีเงินส่งเลี้ยงครอบครัวได้
นอกจากนี้ หากเป็นตนที่เจอลีน่าจังในเหตุการณ์ดังกล่าว ก็คงต้องทำตามหน้าที่ หากลูกค้าจะอ้างว่าใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมตัวละแสน ก็อาจจะต้องติดป้ายเขียนไว้ให้รู้ด้วย เพราะ รปภ. ไม่ทราบ จึงมีสิทธิ์จะสงสัย และขอตรวจค้นตามปกติ
