จิม แมตทิส อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐออกมาประณาม โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตเจ้านายของเขาที่ใช้คำพูดและกลยุทธที่ส่อไปในทางรุนแรง ในการรับมือการประท้วงที่เกิดขึ้นในแผ่นดินอเมริกา
คำแถลงการณ์ของแมตทิสในนิตยสาร ดิ แอตแลนติก (The Atlantic) ถือเป็นการโจมตีประธานาธิบดีสหรัฐโดยตรง มีการใช้คำพูดที่ค่อนข้างดุดัน อย่างเช่นประโยคที่ว่า ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนแรกในช่วงชีวิตของเขาที่ไม่พยายามที่จะทำให้คนอเมริกันสามัคคีกันเลย ไม่แม้แต่จะพยายามแกล้งทำด้วยซ้ำ แต่กลับพยายามจะแบ่งแยกผู้คนออกจากกัน
อดีตนายพลแห่งกองทัพสหรัฐยังระบุว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นผลมาจาก 3 ปีที่ทรัมป์พยายามให้เป็นแบบนี้ รวมถึงยังเป็น 3 ปีที่อเมริกาไร้ผู้นำที่มีวุฒิภาวะ คนอเมริกันสามารถรวมพลังกันเองได้โดยไม่ต้องมีเขา
การออกแถลงการณ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่อดีตนายทหารผู้นี้วิจารณ์ประธานาธิบดีหลังจากที่เขาลาออกจากตำแหน่งเมื่อปี 2018 ก่อนหน้านี้แมตทิสปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใด ๆ ที่เกี่ยวกับผู้นำสหรัฐ โดยให้เหตุผลว่า การที่อดีตนายพลและอดีตคณะรัฐมนตรีวิจารณ์ประธานาธิบดีคนปัจจุบันนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และจะเป็นการผิดจรรยาบรรณของทหารที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
หลังจากข้อความของแมตทิสถูกเผยแพร่สู่สาธารณชนไม่นาน ทรัมป์ก็ออกมาตอบโต้ผ่านทางทวิตเตอร์ของเขาทันที โดยให้สมญานามแก่อดีตรัฐมนตรีของเขาว่าเป็น ‘แม่ทัพที่ถูกยกย่องเกินจริงมากที่สุดในโลก’ และมีจุดเด่นด้านการประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ด้านการทหาร
ในขณะเดียวกัน มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐคนปัจจุบันก็แสดงจุดยืนตรงข้ามกับทรัมป์เช่นกัน โดยหัวเรือใหญ่แห่งเพนตากอนให้ความเห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่วิกฤติจนต้องใช้กำลังทหารบนแผ่นดินสหรัฐ ควรจะใช้วิธีการนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายในจังหวะและโอกาสที่เร่งด่วนเท่านั้น
ปัจจุบันกองกำลังที่ลงไปช่วยตำรวจท้องที่ในการควบคุมสถานการณ์คือกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) ซึ่งเป็นกำลังสำรองของกองทัพบกและกองทัพอากาศ ส่วนกองทัพนั้นยังคงปักหลักอยู่ที่เมืองหลวง วอชิงตัน ดีซี