โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

อดีตภรรยา 'สามารถ'  สุดจะทนปล่อยโฮกลางรายการ

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 23 ส.ค. 2562 เวลา 10.46 น. • เผยแพร่ 23 ส.ค. 2562 เวลา 10.46 น.

ทีมบันเทิง คมชัดลึก - อย่างที่เห็นเป็นข่าวกรณีการอย่าร้างระหว่าง"หญิง" วลัยทิพย์ ภพธีรธรรม กับอดีตนักมวยชื่อดังสามารถ พยัคฆ์อรุณ ถึงขั้นไปตกลงที่ศาล การแบ่งสินสมรสที่คาราคาซังในตอนนี้ ขอเปิดใจในรายการเจาะประเด็น ว่า 10 ปีที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น อะไรเป็นเหตุที่ทำให้ความรัก 10 ปีต้องจบลง วันนี้รายการ เจาะประเด็น ทาง ช่อง 8 โดยมีต่วย-ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์ **เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ได้ร่วมพูดคุยกับ หญิง-วลัยทิพย์ ภพธีรธรรม มาเปิดใจในรายการเป็นที่แรก

เริ่มจากเหตุการณ์วันที่ไปศาล ไกล่เกลี่ยกันกรณีที่หย่าร้าง หย่าร้างกับคุณสามารถตั้งแต่เมื่อไหร่ แยกกันอยู่เลยตั้งแต่วันนั้น?
หญิง : หย่าเมื่อเดือนมกราคม ปี 2560 คะ จริงๆ ยังอยู่ด้วยกันในรั้วเดียวกัน ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น แต่ไม่เคยได้เจอหน้ากันคะ

ตั้งแต่อย่าร้าง จนถึงวันที่ไปที่ศาลเคยคุยกันก่อนหน้านี้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไหม
หญิง : ไม่เคยคุยคะ ไม่ได้เจอกันเลย ที่ศาลเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกัน
ทำไมถึงต้องถึงขั้นฟ้องร้อง เพราะตกลงกันไม่ได้หรืออย่างไร มีการแบ่งทรัพย์สินกันอย่างไร
หญิง : ก็ตกลงกันไม่ได้คะ มันมีทรัพย์สินบางอย่างที่เป็นสินสมรสที่ตกลงกันไม่ได้ ทั้งบ้าน และค่ายมวย มีการกู้ธนาคารร่วมกัน หญิงต้องการให้แยกออกจากกัน

วันที่ไปศาลจากที่บอกว่าไม่ได้เจอกันมาในรอบ 2 ปี เจอสามารถแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ได้คุยกันไหม
หญิง : วันนั้นเจอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอกลับบ้านมาเห็นคลิปข่าวบางคลิปก็รู้สึกสะเทือนใจ จริงๆ ไม่ได้มองพี่เค้าตอนที่อยู่ในศาล เค้าไม่ได้มีความประสงค์ที่จะคุยกับเราอยู่แล้ว ถ้าเกิดเค้าพร้อมอยากจะคุยหญิงก็พร้อมคุยเสมอ รอเค้าพร้อม

สงสัยว่าตลอดที่อยู่ในศาลหลบหน้าคุณหญิงตลอด และวันที่ไปศาลก็หลบหน้านักข่าวไม่ยอมให้สัมภาษณ์
หญิง : หญิงก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องถามพี่เค้า

จากที่คุณหญิงบอก มีการไปถ่ายภาพพี่สามารถที่ค่ายมวยแล้วคุณหญิงรู้สึกสะเทือนใจ เป็นอย่างไร
หญิง : คือรู้สึกหดหู่คะ เห็นในภาพนั้นรู้สึกว่าพี่เค้าไม่แข็งแรง เห็นแว็บแรกก็รู้สึกว่าทำไมคนเราเคยอยู่ด้วยกัน แต่วันนี้ทำไมถึงมาถึงจุดนี้ จริงๆ น่าจะคุยกันได้

ทำไมตอนหย่าไม่ได้ตกลงกันด้วยดี ถึงบานปลายถึงขั้นฟ้องแบ่งสินสมรสกัน
หญิง : คือมาถึงจุดนี้เพราะอดีตสามีไม่ได้ทำตามที่พูดคะ ตอนที่ตกลงถ้าไม่มีเงินก็จะนำอะไรไปขายแล้วชำระหนี้เสร็จแล้วก็มาแบ่งกัน แต่อดีตสามีไม่ได้ทำตามที่พูด แล้วก็เรื่องภาระหนี้สินตามที่ให้ข่าวไปว่าต้องการให้แยกชื่อ คือเดิมตอนที่มีการจดทะเบียนสมรสแล้วไปกู้เงินธนาคาร หลังจากที่จบกันก็อยากให้แยกชื่อออกมา เพราะเรื่องนี้ทำให้หญิงใช้ชีวิตลำบาก ดูคาราคาซัง หญิงต้องการไปทำธุรกิจอะไร ไปยื่นขอกู้เงินเพิ่มก็ลำบาก ทรัพย์สินเราก็ไม่ได้มีอะไร

2 ปีหลังจากเลิกรากับอดีตสามี ต้องใช้หนี้สินแทนอดีตสามีด้วยไหม ภาระหนี้สินเยอะไหม ?
หญิง : ไม่คะ เค้าก็ใช้หนี้ในส่วนของเค้า หญิงก็ใช้หนี้ในส่วนของหญิง แต่ชีวิตก็ไม่ได้สบาย ค่อนข้างลำบาก เพราะหญิงออกมาแต่ตัวคะ หญิงต้องทำมาหาเงิน เพื่อภาระหนี้สินถ้ารวมกันทั้ง 3 บัญชีก็ประมาณหลักแสนต้นๆ ยังไม่รวมค่ากินค่าอยู่คะ

สิ่งสำคัญคือเรื่องของการขายค่ายมวยที่ร่วมสร้างกันมา?
หญิง : จริงๆ ก็ไม่ได้ว่าจะให้ขายอะไร แต่ในเมื่อแยกกันแล้วแล้วเค้ามีความประสงค์อยากจะเก็บไว้คนเดียว ในเมื่อค่ายมวยนี้ร่วมทำกันมาตลอดแล้วเมื่อเราแยกกันแล้วก็มาคุยกันดีไหม ถ้ามีวิธีการหาเงินอย่างอื่นในการหาเงินก็มาคุยกัน แต่เค้าก็ไม่คุยอะไรซักอย่าง

ค่ายมวยชื่อ ภพธีรธรรม ซึ่งเป็นนามสกุลของคุณหญิงที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบัน
หญิง : ใช่คะ เป็นนามสกุลที่ตั้งขึ้นมาใหม่ใช้ด้วยกัน 2 คน เป็นความประสงค์ของอดีตสามีว่าต้องการเปลี่ยนนามสกุล ก็มีคนให้คำแนะนำก็ได้นามสกุลนี้มา แล้วก็มาทำค่ายมวยตั้งแต่เป็นพื้นดินจนมาถึงตอนแยกกันคะ พอหญิงออกมาก็ถึงเปลี่ยนชื่อค่ายมวยคะ

ย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนคบกัน เจอกันได้อย่างไร คบกันจากไม่มีอะไรจนมาถึงทุกวันนี้ ?
หญิง : ตอนคบไม่มีคะ เริ่มต้นจากศูนย์ เจอกันในกองถ่ายที่ลาดหลุมแก้วคะ

อะไรที่ทำให้ตกลงใช้ชีวิตร่วมกับคุณสามารถ เคยได้ยินหรือรู้จักเค้ามาก่อนหรือเปล่า
หญิง : การกระทำที่เค้าแสดงออกตอนที่จีบเราใหม่ๆ คะ เค้าก็มาหาคุณแม่มาสนิทกับน้องสาว แม้ตอนที่เราไม่อยู่ก็มาดูแลมาเทคแคร์ ก็เคยได้ยินเรื่องความเจ้าชู้หรืออะไรของเค้ามาแต่ตอนนั้นยังเด็ก ก็คิดว่าความรักคงเปลี่ยนแปลงคนได้ ถ้ารักกัน ตอนนั้นก็ไม่ได้ชอบทีเดียว พี่เค้าก็มาทำความสนิทสนมคุณพ่อ คุณแม่

เคยได้ยินไหมในอดีตสามีว่าเจ้าชู้ หรือเป็นคนมีสเน่ห์ อะไรที่ไม่โอเคในตอนนั้น
หญิง : ก็รู้สึกว่าเค้าคงเจ้าชู้จริงๆ ไม่น่าคบซักเท่าไหร่ คิดอยู่เหมือนกันคะ แต่เมื่อเค้าเข้ามาพูดคุยมาสนิทกับเพื่อนกลุ่มเรา นุ๊กเองก็สนิทกับเค้าตั้งแต่ตอนแรก เค้าก็แสดงให้เราเห็นต่างๆ ทำให้เราใจอ่อนคะ เราก็รู้สึกว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่คงจะดูแลเราและครอบครัวได้ อายุเราห่างกัน 19 ปีคะ แต่เค้าก็ชนะใจเราจนได้ก็มาใช้ชีวิตร่วมกัน

ธุรกิจต่างๆ ในวันนี้ เป็นการเริ่มต้นมาด้วยกันของคุณหญิงกับคุณสามารถ
หญิง : ก็ได้ที่ดินกันมาแล้วก็มาปลูกบ้านด้วยกัน 2 หลัง เงินก็ไม่ได้เหลือก็กู้แบงค์ร่วมกัน ทำค่ายมวย ก็มีปรึกษากับคนใกล้ชิด

หลังจากตกลงใช้ชีวิตร่วมกันก็มีความสุขดี แล้วปัญหาเริ่มเกิดเมื่อไหร่แล้วเกิดอะไรขึ้น
หญิง : แรกๆ คะ หลังจากที่คบกันมาสักพักแล้วก็มาแต่งงานกันในปี 2551 คะ แต่เมื่อปลายปี 2556 หญิงได้ทราบเรื่องบางอย่าง เพราะปัญหาตอนนั้น เราดูแลค่ายมวย ส่วนตัวพี่เค้าออกไปทำงานนอกบ้าน แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจหญิงมากๆ เลย คือ การที่เค้านอกใจ

เรารู้เองหรือมีคนมาบอก แล้วเราเชื่อไหม มีการปรับตัวกันใหม่หรือเปล่า
หญิง : ตอนแรกมีคนมาบอก ตอนหลังเรารู้เองคะ คือเค้าไปกับผู้หญิงอื่น แล้วมีเพื่อนอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เพื่อนมาบอกเราก็เชื่อเลยคะ เพราะเรารู้จักตัวตนของเค้ามาบ้างแล้ว ตอนแรกที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นพี่เค้าก็จะพยายามที่จะปรับให้อยู่ด้วยกันได้ แต่ก็ปรับไม่ได้จริงๆ เพราะไม่ใช่ตัวตนของเค้า

ความเจ้าชู้นับได้ไหมว่ากี่เรื่องหรือกี่คน
หญิง : มันนับไม่ได้คะ มันมีหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ว่าเหตุการณ์เมื่อปลายปี 56 ทำให้เรารู้สึกเลยว่ามันมากเกินไปจริงๆ

เหตุการณ์ไหนที่ทำให้เราเจ็บที่สุดหรือรู้สึกเสียใจที่สุด
หญิง : เสียใจที่สุดก็คือเรื่องที่เค้าพูดไม่จริง พูดกับสังคม เจ็บที่สุดคือเหตุการณ์ที่เราจับได้ที่เค้านอกใจ ก็พูดกับเค้าว่าทำไมต้องทำกันแบบนี้ ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกัน หญิงทำงานในค่ายมวยเหนื่อยมาก ทำงานค่ายมวยบางครั้งก็ไม่เหลืออะไร หญิงเป็นคนไปหยิบยืม เพื่อมาทำธุรกิจนี้ต่อ แล้วคุณออกไปมีความสุขนอกบ้านแบบนี้มันไม่แฟร์

คนที่เข้ามาพัวพันกับอดีตสามี เป็นคนใกล้ชิดหรือเป็นคนที่เรารู้จักไหม เค้าคือมือที่ 3
หญิง : เป็นคนที่เราไม่รู้จักคะ เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนแรกมีเพื่อนมาบอก แล้วหญิงก็สืบ สรุปว่ามันเป็นเรื่องจริง

เคยคุยกับอดีตสามีถึงการนอกใจครั้งนั้นไหม เราบกพร่องตรงไหน?
หญิง : หญิงก็ถามเค้าว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เค้าก็บอกไม่มีอะไรแค่แฟนคลับทั่วไป เค้าไม่เคยขอโทษ เค้าบอกว่าเป็นเรื่องที่เคยทำมาก่อนแล้ว หญิงก็ควรจะชิน ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ ซ้ำๆ หญิงจะชินเอง คำพูดนี้ทำให้หญิงเริ่มถามตัวเองว่าใช่เหรอว่าเราจะใช้ชีวิตกับผู้ชายคนนี้ ทำไมไม่พูดคำนี้ตั้งแต่แรกเราจะได้ไม่ใช้ชีวิตกับคุณตั้งแต่แรก หญิงคิดว่าคนนี้ไม่ใช่คนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปได้แล้ว ปลายปี 56 ปี 57 ก็พยายามเพราะคุณแม่ขอไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก พยายามประคับประคองคิดว่าคนรักกันจะปรับเปลี่ยนได้

มีจุดที่เค้าแสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน
หญิง : ก็มีคะ เค้าก็คุยกับเราว่าเค้าจะปรับ แต่มันคงปรับเปลี่ยนเค้าไม่ได้จริงๆ เค้าไม่เคยขอโทษกับสิ่งที่หญิงรู้สึกว่าหญิงเสียใจที่สุดและเจ็บที่สุด

แปลว่ามีบางจุดที่เราเริ่มคิดว่าต้องไปจากเค้าหรือสิ้นสุดการใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
หญิง : คิดคะ แต่ก็ไม่ได้มั่นใจว่าจะไปได้จริงๆ เพราะ ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ค่ายมวย นักมวย เราก็มีความผูกพันธ์กับคนหลายๆ ชีวิตไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ เหมือนครอบครัวใหญ่ๆ

คนเข้าใจว่าค่ายมวยเป็นของอดีตสามีแต่จริงๆ แล้วคุณเริ่มสร้างมาด้วยกัน
หญิง : งานค่ายมวยที่เราทำสอนทั้งไทยและต่างชาติ ก็มาพักอยู่กับเรา มีอาหารเช้าเย็น วันหยุดพาไปเที่ยว เจ็บป่วยก็ต้องพาไปโรงพยาบาล มันค่อนข้างจะจุกจิกหยุมหยิมนะคะ ทุกอย่างเป็นงานบริการดูแลเค้า 24 ชั่วโมง

หนักไหมสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องทำถึงต้องทำถึงขนาดนี้
หญิง : หนักคะ เหมือนเราอยู่คนเดียว ท่ามกลางคนหมู่มาก เราไม่มีที่ปรึกษา นอกจากจะเสียใจเรื่องนอกใจแล้ว นอกจากทำงานค่ายมวยแล้ว หญิงก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เค้า การรับงาน งานไหนอยากไป งานไหนไม่อยากไป ไม่อยากไปเจอคนนี้ ให้เราหาวิธีปฏิเสธโดยการเรียกค่าตัวสูงจนเค้าไม่จ้าง เพียงคิดว่าเราไม่ได้ปฏิเสธงานแต่เค้าไม่จ้างเอง หญิงเป็นคนชนเอง

ปัจจัยที่ทำให้ความรัก 10 ปีลง นอกจากเรื่องเจ้าชู้ แล้วมีเรื่องอื่นไหม
หญิง : เรื่องงานบางอย่างหนักไปสำหรับเรา เพราะก่อนจะหย่าหญิงทำทุกอย่างคนเดียวคะ จะเป็นหญิงหมดเลย รับโทรศัพท์ ดูนักมวย พานักมวยไปชก พาไปโรงพยาบาล เป็นหญิงหมดเลย อย่างพานักมวยไปชกก็อยากให้พี่เค้าไป แต่ได้คำตอบว่า พี่ไม่ไป มันชกไม่ดีพี่อายเค้า เรื่องนี้นักมวยทั้งหมดในค่ายก็รู้

เคยคุยกับอดีตสามีตามตรงไหมว่าเราเหนื่อย
หญิง : เคยคุยคะ แต่คำตอบที่ได้คือ อย่าคิดมาก ทุกอย่างมันเป็นของเรา ฟังแล้วหนักกว่าเดิมคะ บางครั้งเวลาเราไปในสังคมไปเจอผู้ใหญ่ก็จะต่อว่าต่อขานเรา ว่าเราเขี้ยวกับอดีตสามีเยอะเกินไป ซึ่งมีครั้งหนึ่งเราก็ได้ยินกับหู เพราะมีคนเข้ามาคุยกับเค้าว่างานนี้ไปเถอะ อย่าเขี้ยวมาก เค้าก็บอกว่างานนี้ผมอยากไป แต่คนนี้เค้าไม่ให้ไป ก็มาโยนให้หญิง ซึ่งเราก็ตกลงกันแล้ว ว่างานนี้จะไป งานนี้ไม่ไป เค้าเป็นคนเลือก ให้หญิงเรียกเงินเยอะ เค้าจะได้ไม่จ้าง

การฝากชีวิตกับผู้ชายคนที่เราคิดว่าจะฝากผีฝากไข้
หญิง : การใช้ชีวิตไม่ว่าจะแกร่งอย่างไร ต้องมาเป็นหนังหน้าไฟมาให้คนนั้นคนนี้ตำหนิมันก็ไม่ใช่ เราก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่ อยู่กับผู้ชายคนนี้จากเดิมที่คิดว่าเราจะฝากชีวิตไว้ เราทุ่มเททุกอย่าง ( ร้องให้) แต่สิ่งที่เราได้รับมันเป็นแบบนี้ หรือคะ แล้วมีคำพูดที่เค้าพูดกับหญิงว่า หญิงจะเอาอะไรกับเค้าอีก หญิงอยู่กับเค้าหญิงได้ไปเยอะแล้วจะเอาอะไรกับเค้าอีก หญิงไม่ได้รับอะไรเลยถ้าหญิงได้จริง หญิงหนีไปมีความสุขไม่ดีกว่าเหรอ วันนี้หญิงดีใจคะที่มีโอกาสออกมาพูดในรายการนี้ คิดอยู่นานว่าจะมาหรือไม่มาดี หญิงออกมาพูดความจริงให้คนทั้งประเทศได้รับรู้แล้ว ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่คะ

เรื่องที่เค้าทำร้ายจิตใจเราเหลือเกิน จนทำให้เราจบชีวิตคู่กับเค้า
หญิง : เรื่องที่พูดถึงพ่อกับแม่เราไม่ดี ว่าเรามาแต่ตัว มันไม่ใช่ ตอนที่คุณอยากได้ คุณทำทุกอย่างให้ได้เรามา แต่เมื่อจากลาคุณทำอย่างนี้กับหญิงมันไม่ใช่ เค้าใจดำมาก กล้าพูดว่าทำค่ายมวยคนเดียวหญิงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร ขึ้นชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษนอกสังเวียนก็ออกมาพูดกันซิคะ ออกมาคุยความจริง มองว่าหญิงไม่ดีหญิงผิดอะไร มาคุยกันคะ หญิงพร้อมเสมอ พร้อมที่จะพูดความจริง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0