อดีตนายพลหัวร้อน ขับรถชนแล้วหนี ออกมาเปิดเผยว่า ขอรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ และรู้สึกเครียดเป็นอย่างมากที่ถูกสื่อรุม…
จากกรณีที่มีคลิปเหตุการณ์ที่คนขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เฉี่ยวชน กับรถจักรยานยนต์ แต่ไม่ยอมลงมาดูผู้เสียหาย จากนั้นได้ขับรถหลบหนี จนถูกผู้ขับขี่จักรยานยนต์รายอื่น ๆ ไล่ตามขวางเพื่อหยุดลงไปดูคู่กรณี แต่คนขับกลับชนฝ่าวงล้อม จนไปถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้ที่หน้าสถานีขนส่งเอกมัย โดยหลังจากนั้นทราบผู้ขับขี่ คือ พล.ต.สุรศักดิ์ จิตต์บุญ อดีตนายพล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้นัดให้อดีตนายพลหัวร้อน ผู้เสียหาย พลเมืองดี และตัวแทนประกันของลุง เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม และเจรจาหาข้อสรุป ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้ว
ล่าสุดอดีตนายพล มาตามนัด เมื่อถึง สน.คลองตันแล้ว ก็ไม่ลงจากรถ เกิดการลังเลขึ้นรถลงรถหลายรอบ สุดท้ายเดินหลบสื่อ ไปที่หลังอาคารและเข้าไปหาตำรวจภายในห้องสอบสวน โดยที่ไม่มีใครได้สัมภาษณ์ หลังจากนั้นตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้นำรถของผู้ที่เสียหายทั้งสองคันมาตรวจสอบร่องรอยการชน จากนั้นไม่นานอดีตนายพลก็ปรากฏตัวออกมา เพื่อขยับรถฟอร์จูนเนอร์ของตนเองให้ตำรวจได้ทำการตรวจสอบร่องรอยการชนเช่นกัน และได้เปิดเผยว่า จะขอรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองทำผิด ยืนยันเหมือนเดิมว่าที่ขับหนีเพราะกลัวที่ถูกรถมอเตอร์ไซค์ของพลเมืองดีล้อมเอาไว้ ส่วนคลิปหลักฐานใหม่ที่เห็นว่ารถของตนเองขับไปเบียดรถผู้เสียหาย เป็นการเบียดแบบเบา จึงไม่รู้สึกตัวเลยขับไปต่อ ไม่ได้ลงมาดู ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว รู้สึกเครียดมากที่ถูกสื่อมวลชนรุมทำข่าว
ด้าน นายอนันต์ จันทร์ภู่ คู่กรณีของอดีตนายพล ก็เปิดเผยว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกตัว เพราะวันที่เกิดเหตุอดีตนายพลเปิดกระจกมาดูแล้ว ยังไงก็ต้องรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ยังขับหนีไปหน้าตาเฉย ทำให้พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ขับตามไปประกบ เพื่อบอกให้ลงมาจากรถตามที่เห็นในคลิป ส่วนตัวไม่ได้เสียหายอะไรมาก ไม่ได้ติดใจอะไร หลังจากนี้คงให้ตำรวจเป็นคนดำเนินคดีในข้อหาที่เหมาะสมต่อไป
หลังจากที่เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจแล้ว อดีตนายพลก็เดินหลบหน้าสื่อมวล เดินไปขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์ของตัวเอง แล้วขับออกจาก สน.คลองตัน อย่างรวดเร็ว ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ตำรวจแยกเป็นสองคดี คดีแรกคือที่อดีตนายพลขับเบียดรถ CBR ตามคลิปใหม่ที่ปรากฏออกมา คดีนี้ตำรวจแจ้งข้อหากับอดีตนายพล 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย 2.ชนแล้วหนี ซึ่งอดีตนายพลได้รับการประกันตัวในวงเงิน 15,000 บาท และต้องไปต่อสู้กันชั้นศาล
ส่วนคดีที่สอง เป็นกรณีที่อดีตนายพลขับรถเหยียบรถมอเตอร์ไซค์ของ นายวรายุทธ ปิ่นใจ พลเมืองดีที่ขับตามมาที่ปรากฏในคลิป โดยไม่เกี่ยวกับคดีแรก นายวรายุทธ ได้แจ้งความในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งสามารถยอมความกันได้ โดยที่ตำรวจไม่ต้องส่งฟ้องศาล ส่วนวันนี้ได้นัดให้ทุกฝ่ายเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม มีและการตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชนไปแล้ว ขณะกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก เพื่อดูว่าจะเข้าข่ายความผิดในเรื่องอื่นๆหรือไม่ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน.
