โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อดีตนายพลทหารหัวร้อนมาเจรจาคู่กรณี-บก.จร.ตรวจสภาพรถทั้ง2ฝ่ายประกอบสำนวน

สยามรัฐ

อัพเดต 15 พ.ย. 2562 เวลา 06.02 น. • เผยแพร่ 15 พ.ย. 2562 เวลา 05.55 น. • สยามรัฐออนไลน์
อดีตนายพลทหารหัวร้อนมาเจรจาคู่กรณี-บก.จร.ตรวจสภาพรถทั้ง2ฝ่ายประกอบสำนวน

จากกรณีคลิปเหตุการณ์ที่คนขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เฉี่ยวชน กับรถจักรยานยนต์ แต่ไม่ยอมลงมาดูผู้เสียหาย จากนั้นได้ขับรถหลบหนี จนถูกผู้ขับขี่จักรยานยนต์รายอื่นๆ ไล่ตามขวางเพื่อหยุดลงไปดูคู่กรณี แต่คนขับกลับชนฝ่าวงล้อม จนไปถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้ที่หน้าสถานีขนส่งเอกมัย ทราบภายหลังผู้ขับขี่ คือ พล.ต.สุรศักดิ์ จิตต์บุญ อดีตนายพล ซึ่งตำรวจได้แจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ และ ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย​ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 พ.ย.62 ที่ สน.คลองตัน พล.ต.สุรศักดิ์ จิตต์บุญ อดีตนายพล ได้เดินทางมาเจรจาเพื่อไกล่เกลี่ยกับ นายวรายุทธ ปิ่นใจ พลเมืองดีผู้เสียหาย โดยอดีตนายพล มีท่าทีหลบเลี่ยงสื่อมวลชน พยายามเดินผ่านหลังแฟลตตำรวจซึ่งเป็นทางเดินคับแคบมีสิ่งของวางกีดขวางเส้นทางก่อนจะเข้าไปภายในห้องฝ่ายสืบสวน​ และสอบปากคำโดยห้ามบันทึกภาพ

นายวรายุทธ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้พูดคุยกับอดีตนายพลคนดังกล่าวและไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องค่าเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งวันนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญมาให้ปากคำพร้อมไกล่เกลี่ยซึ่งเบื้องต้นได้ประเมินความเสียหายน่าจะเกิน 10,000 บาท เพราะศูนย์ถ่วงของรถเสียและมีร่องรอยการชนค่อนข้างเยอะ ส่วนตัวไม่อยากคุยกับอดีตนายพลเนื่องจากคลิปค่อนข้างชัดเจนว่าอดีตนายพลชนจริง​ ไม่สามารถแก้ตัวได้ แต่ก็รู้สึกดีใจที่เรื่องนี้ถูกนำเสนอเป็นข่าวเพราะพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นบนท้องถนน ยืนยันว่าถ้าเกิดเหตุการแบบนี้บนท้องถนนก็จะเป็นพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือติดตามเช่นเดิม

ต่อมาเวลา 11.00 น. ภายหลังจากที่ พล.ต.สุรศักดิ์ จิตต์บุญ อดีตนายพล ได้เดินทางมาที่ สน.คลองตัน เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี นายวรายุทธ ปิ่นใจ พลเมืองดีผู้เสียหาย​ ทางตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน​ บก.จร.ก็มีการนำรถฟอร์จูนเนอร์​, จยย.ของผู้เสียหายทั้ง2คัน​ มาตรวจสอบร่องรอยความเสียหาย

ด้าน​ พล.ต.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูด หลังจากนี้จะรับผิดชอบในส่วนที่ตัวเองทำผิดเท่านั้น และในวันเกิดเหตุสาเหตุที่ไม่ลงมาจากรถ เพราะว่า กลัว ที่มีรถจักรยานยนต์หลายสิบคัน ขับมารุมที่รถของตน และยังมาทุบรถตนอีก เป็นก็ไม่กล้าลง เพราะกลัวจะได้รับอันตราย และหลังจากที่ตกเป็นข่าว ก็เครียดมาก เพราะโดนรุม

ด้าน นายอนันต์ จันทร์ภู่ รถ​จยย.คันแรกที่เป็นคู่กรณี ระบุว่าในวันเกิดเหตุก็ขับรถมาตามเส้นทางปกติ สักระยะรถอดีตนายพลได้พยายามเบียดจนทำให้รถของตนเบียดกับฟุตบาทกลางถนน ส่วนอีกฝั่งของรถเบียดกับรถของอดีตนายพล แต่ไม่ได้ล้มลงและไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด จึงไม่เข้าแจ้งความ วันนี้ตำรวจเรียกมาเพื่อให้ข้อมูลและให้ตำรวจงานช่างเครื่อยนต์ได้ตรวจพิสูจน์ร่องรอยการชน ยืนยันไม่ติดใจเอาเรื่อง

ด้าน​ พ.ต.อ.ปรเมษฐ์​ โพยนอก​ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่า​ ในคดีนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้มีการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดี ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และชนแล้วหนี ซึ่งทางผู้ก่อเหตุได้ขอยื่นประกันตัวให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปในวงเงิน 15,000 บาท ไปตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว​ การดำเนินการในส่วนนี้ต้องรอผลตรวจสอบรถคู่กรณี ทั้ง 3 คัน เพื่อนำมาประกอบสำนวน ส่วนที่ 2 ที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งในส่วนนี้สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ พนักงานสอบสวนไม่จำเป็นต้องส่งฟ้องศาล​ อย่างไรก็ตามวันนี้ได้เรียกคู่กรณีทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติม​ และมีการตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชน​ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน

มีรายงานข่าวว่า​ นายวรายุทธ​ ปิ่นใจ​ พลเมืองดีขับรถจยย.ฟิลาโน่​ จะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเพิ่มเติม​ เนื่องจากมีการขับรถพุ่งชนขณะที่กำลังคร่อมรถ​ จยย.อยู่​

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0