เมื่อวันที่ (15 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้ น.ส.จีระนันท์ กิจประสาน หรือ "เม-จีระนันท์" อดีตนักร้องชื่อดัง เปิดใจผ่านเฟซบุ๊กอย่างละเอียด ถึงกรณีที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด หลังตัดสินใจจ่ายเงิน 8 แสนบาท ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกและตาที่ประเทศเกาหลี หลังแพลนที่จะกลับมาร้องเพลงอีกครั้ง แต่เกิดความผิดพลาดจนทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด อาการโคม่า มีโอกาสรอดแค่ 10% ขณะที่เอเย่นต์ก็ปัดความรับผิดชอบ
ความคืบหน้าเรื่องนี้ น.ส.จีระนันท์ ได้โพสต์เล่าลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่ตัดสินใจที่จะทำศัลยกรรม ซึ่งติดต่อผ่านเอเย่นต์แห่งหนึ่งในประเทศไทย เพราะหลงเชื่อคำโฆษณาและการรีวิวจากบุคคลที่มีชื่อเสียง นัดหมายทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลแกรนด์ พลาสติก เซอร์เกรี่ (Grand Plastic Surgery) ที่เกาหลี เมื่อช่วงปลายปี 2560 แต่ผลการผ่าตัดผิดพลาด ทำให้มีเลือดออกมามากผิดปกติ แต่ทางโรงพยาบาลกลับปกปิดข้อเท็จจริง ทั้งยังให้หิ้วถุงระบายเลือดขึ้นเครื่องบินกลับมาพักรักษาตัวต่อที่ประเทศไทย โดยหมอผู้ทำศัลยกรรม นัดถอดสายระบายเลือดที่คลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสาขาของทาง โรงพยาบาลในประเทศไทย
โดยในระหว่างการรักษาตัวในไทย อาการไม่ดีขึ้น แต่แพทย์ก็ยังยืนยันว่า เป็นอาการปกติของคนที่เพิ่งทำศัลยกรรมมา ภายหลังตรวจพบว่าตัวเองติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง เป็นเชื้อชนิดหนึ่ง (Pseudomonas Aeruginosa) ซึ่งพบได้ในโรงพยาบาล และสถานพยาบาลเท่านั้น อาการเข้าขั้นโคม่าไข้ขึ้นสูง มีหนองทะลักออกจากแผลบริเวณใต้รักแร้ มีโอกาสรอดเพียง 10 % ต้องอยู่ห้องไอซียู และเข้ารับการผ่าตัดอีก 3 ครั้ง รวมระยะเวลาการรักษาใน 2 โรงพยาบาลในไทย เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อเอาซิลิโคนออกโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นก็ทำให้ได้รู้ว่า แพทย์โรงพยาบาลนี้พยายามปกปิดการทำศัลยกรรมที่ผิดพลาดครั้งนี้ จึงต้องการโพสต์เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ ให้ศึกษาข้อมูลให้ดี อย่าหลงเชื่อคำรีวิว หรือคำโฆษณาจากผู้มีชื่อเสียง
ทั้งนี้ น.ส.จีระนันท์ กิจประสาน จะมีการแถลงข่าวเป็นทางการอีกครั้ง ขณะที่ ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีที่ คลินิกในเครือโรงพยาบาลศัลยกรรมเกาหลี อนุญาตให้แพทย์จากประเทศเกาหลี ถอดถุงระบายเลือด และเย็บปิดบาดแผลจากการทำศัลยกรรม เข้าข่ายผิดกฎหมายในประเทศไทย เนื่องจาก แพทย์ชาวต่างชาติ ไม่สามารถทำหัตถการทางการแพทย์ได้ หากยังไม่ขออนุญาต เบื้องต้น สบส.จะเตรียมสอบข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และหากพบว่ามีความผิด จะเรียกเครือข่ายคลินิกในประเทศไทยมาให้ข้อมูล ส่วนแพทยสภา แนะนำให้ นางสาวจีระนันท์ ไปแจ้งความเพื่อเอาผิดกับ สบส. เพราะตามกฎหมายจะต้องมีผู้ร้องเรียนจึงจะทำให้ตรวจสอบเอาผิดได้
