องครักษ์พิทักษ์ "ชวน" โต้ "เสรีพิสุทธิ์" บอกจำใส่สมอง "ชวน" ไม่เคยรับใช้ใคร ฉะ คนที่ควรถูกตำหนิ "ไอ้เวร" ควรเป็นตัวเอง แจงปมอภิปรายถวายสัตย์ไม่ได้ เหตุเกิดก่อนการบริหาราชการแผ่นดิน
เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 25 ก.พ. ที่รัฐสภา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าเป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่รับใช้ฝ่ายบริหาร หลังนายชวนไม่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีการถวายสัตย์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ตนอยากเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จำใส่สมองที่ชอบย้ำคิดย้ำทำอยู่เสมอว่า ท่านชวนไม่เคยรับใช้ใคร ท่านทำการเมืองบนเส้นทางการเมืองที่สุจริตมา 50 ปี ในเรื่องของความซื่อสัตย์ก็ได้รับความการยอมรับนับถือจากคนทั่วประเทศและทั่วโลก ไม่มีเรื่องการทุจริตเหมือนใครบางคน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ควรจะต้องรู้ว่าการให้เกียรติต่อสถาบันที่ตนเองสังกัดอยู่นั้นเป็นสิ่งที่พึงกระทำ
ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่านายชวน ใช้สิทธิ์อะไรมาอ้างว่ากรณีถวายสัตย์ไม่สามารถนำมาอภิปรายในครั้งนี้ได้ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องยึดกฎหมาย ทั้งรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับ มีข้อตกลงในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เกิดความราบรื่นในการทำงาน และเมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) วิปฝ่ายค้าน และวิปฝ่ายรัฐบาลได้ร่วมประชุมตกลงกันแล้วว่าจะอภิปรายอย่างไร ในประเด็นใด หาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ขี้เกียจ และขยันเหมือนคนที่เข้าประชุม ท่านก็จะทราบเหตุผล ความจริงแล้วคนที่จะถูกตำหนิว่าไอ้เวรควรจะเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เอง และเรื่องการถวายสัตย์เกิดก่อนการบริหารราชการแผ่นดิน
ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้คือการอภิปรายเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อที่ 69 วรรคสอง กำหนดว่า ห้ามผู้อภิปรายแสดงกิริยา หรือใช้วาจาอันไม่สุภาพใส่ร้ายเสียดสีบุคคลใด และกล่าวถึงพระมหากษัตริย์หรือออกชื่อสมาชิกหรือบุคคลใดโดยไม่จำเป็น ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มียาสามัญประจำบ้าน หรือประจำตัวอยู่อย่างเดียวคือ ปมถวายสัตย์แค่นั้น และท่านก็เป็นส.ส.คนแรกที่ถูกไล่ออกจากห้องประชุมในส.ส.ชุดนี้ และเรื่องการถวายสัตย์ไม่ก่อเกิดประโยชน์ใดแก่ประชาชนเลย
