ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (20 มิ.ย.2562) โดยเป็นไปในทิศทางขาขึ้นตลอดทั้งวัน เช่นเดียวกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับแรงหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 0.50% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง อีกทั้งผลการประชุม BOJ ซึ่งคาดจะมีการส่งสัญญาณนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเช่นเดียวกัน หนุนสภาพคล่องในตลาดการเงินให้เพิ่มขึ้น และเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,717.82 จุด เพิ่มขึ้น 11.84 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 75,523.79 ล้านบาท
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้น แม้ระหว่างทางจะมีการชะลอการแกว่งตัวขึ้นขึ้นอยู่บ้าง เพื่อรอดูปัจจัยใหม่ โดยเฉพาะการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งจะหารือกันนอกรอบในการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ ที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ส่วนค่าเงินบาทวันนี้แข็งค่าแข็งค่าขึ้นอีก โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.9550 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากเย็นวานนี้(19 มิ.ย.62) ปิดตลาดที่ระดับ 31.23 บาท/ดอลลาร์ ป็นการแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 6 ปี นับตั้งแต่เงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ระดับ 30.9580 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2556
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1. BEM ปิดที่ 11.40 บาท ลดลง 3.39%
2. TRUE ปิดที่ 5.65 บาท เพิ่มขึ้น 1.80%
3. LH ปิดที่ 11.10 บาท คงที่
4. IRPC ปิดที่ 5.15 บาท เพิ่มขึ้น 3%
5. TMB ปิดที่ 1.99 บาท คงที่
