วันนี้(25 ก.ย. 61) ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,747.99 จุด ลดลง 1.43 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 42,321.65 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ-ซึมทั้งภูมิภาคช่วงรอผลประชุมเฟด 25-26 ก.ย.นี้แม้คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% แต่ต้องติดตามการส่งสัญญาณทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้-ปีหน้า ส่วนเรื่องสงครามการค้าตลาดฯรับรู้ไปมากแล้วว่าจีนเมินเจรจาสหรัฐ คงต้องไปรอลุ้นอีกครั้งในการพบปะผู้นำสองฝ่าย ส่วนตลาดบ้านเรายังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันมีโอกาสพุ่งแตะ 90 เหรียญฯ/บาร์เรล และการเมืองเริ่มคึกคัก พรุ่งนี้ตลาดฯมีลุ้นขึ้นได้ ให้แนวรับ 1,740 แนวต้าน 1,762 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,747.99 จุด ลดลง 1.43 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 42,321.65 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,756.85 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,745.73 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 441 หลักทรัพย์ ลดลง 906 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 531 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดูเงียบๆ ไปเหมือนกับทั้งภูมิภาคเอเชียในช่วงระหว่างรอการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 25-26 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% แต่ต้องจับตาการส่งสัญญาณว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้และในปีหน้าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ อย่างไร
ส่วนเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ตลาดฯได้รับรู้กันไปมากแล้วว่าจีนแสดงท่าทีไม่ต้องการเจรจาการค้ากับสหรัฐแล้ว คงต้องรอติดตามในช่วงเดือน พ.ย.ที่ผู้นำทั้งสองประเทศจะมีโอกาสพบปะกัน
สำหรับตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับแรงหนุนจากน้ำมัน ภายหลังจากที่มีหลายผู้เชี่ยวชาญระบุว่าไตรมาส 4/61 ราคาน้ำมันมีโอกาสขึ้นไปถึงระดับ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลจากที่สหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่าน และเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ทางเรามองว่าน่าจะอยู่ในช่วง 86-88 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นอกจากนี้ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีการเปิดตัวพรรคการเมืองที่ได้รับกระแสความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ คือ พรรคประชารัฐ เชื่อว่าจะทำให้เห็นภาพการเมืองของไทยชัดเจนขึ้น จึงน่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ โดยมีแนวรับ 1,740 จุด ส่วนแนวต้าน 1,762 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,440.61 ล้านบาท ปิดที่ 54.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,774.09 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,516.43 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,317.39 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,140.19 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
