โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

หุ้นสายการบิน"เข้าขั้นโคม่า"...จับตาใครทนได้นานสุด!

efinanceThai

เผยแพร่ 30 มี.ค. 2563 เวลา 06.47 น.

ความเงียบเหงาของธุรกิจสายการบิน จากวิกฤตโควิด-19 เกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงแต่ว่าสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น จนถึงขั้นต้องหยุดให้บริการก็เป็นเรื่องที่นักลงทุนไม่ได้คาดคิดเอาไว้เช่นกัน แม้ขณะนี้สายการบินส่วนใหญ่จะหยุดบินเพียงไม่กี่เดือน แต่หากต้องลากยาวเกินคาด สายการบินไหนจะมีเงินเก็บพอประทังชีวิตได้นานที่สุด และนานแค่ไหนกัน?

*** มาถึงจนได้! วันที่สายการบินแห่หยุดให้บริการเที่ยวบิน นานสุดถึงเดือนต.ค.63

เมื่อวันศุกร์(27 มี.ค. 63) นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) ระบุว่า ได้เห็นชอบให้สายการบินสัญชาติไทยจำนวน 9 สายการบิน หยุดบินในเส้นทางต่างๆ

ซึ่งสายการบินที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพ์แห่งประเทศไทย(SET) มีดังนี้

1.การบินไทย(THAI) หยุดบินเส้นทางในประเทศทุกเส้นทางระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563 และได้โอนย้ายเที่ยวบินให้สายการบินไทยสมายล์ทำการบินแทน ขณะที่เที่ยวบินระหว่างประเทศ ได้แก่ ทวีปเอเชีย หยุดระหว่างวันที่ 25 มี.ค. – 31 พ.ค. 63 ทวีปยุโรป หยุดระหว่างวันที่ 1 เม.ย. – 31 พ.ค. 63

2.ไทยสมายล์ หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศ เชียงใหม่-ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 25 มี.ค. – 31 พ.ค. 63 และหยุดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทาง ระหว่างวันที่ 23 มี.ค. – 31 พ.ค. 63

3.ไทยแอร์เอเชีย(AAV) หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศทุกเส้นทาง วันที่ 1 – 30 เมษายน 2563 ยกเว้นเส้นทางอู่ตะเภา-ขอนแก่น หยุดบินระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 24 ตุลาคม 2563 และหยุดบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทาง ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 24 ตุลาคม 2563

4.นกแอร์(NOK) หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ-กระบี่, นครพนม, น่าน, ร้อยเอ็ด, แม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2563 และเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทางตั้งแต่ 31 มกราคม –25 ตุลาคม 2563

5.บางกอกแอร์เวย์ส(BA) หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงราย, กรุงเทพฯ-กระบี่, สมุย-กระบี่, เชียงใหม่-กระบี่, เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่-ภูเก็ต, เชียงใหม่-สมุย และ สมุย-เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 24 ตุลาคม 2563 สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศหยุดทำการบินทุกเส้นทาง ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 24 ตุลาคม 2563

แน่นอนว่าการหยุดบินก็เหมือนๆกับ "การตกงาน"  ดังนั้นการหันมามองเงินสดที่มีอยู่และภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนต้องรู้ไว้ ว่าหุ้นที่เล็งอยู่จะมีสภาพคล่องอยู่ได้อีกกี่เดือนกันแน่ ?

*** AAV มีเงินติดตัว 7.6 พันลบ. อยู่ได้ 7 - 8 เดือน ปีนี้ส่อขาดทุน 805 ลบ.

จากการสำรวจพบว่านักวิเคราะห์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ระบุไว้ว่า AAV มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น ณ สิ้นปี 62 อยู่ที่ 4 พันล้านบาท และจะมีเงินสดจากธุรกรรม Sale and Leaseback และขายเครื่องบินในปีนี้เพิ่มอีก 3.6 พันล้านบาท รวมเป็น 7.6 พันล้านบาท และขณะที่คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือนราว 1 พันล้านบาท เท่ากับจะมีกระแสเงินสดเพียงพออยู่ได้ 7 - 8 เดือน

ส่วนในด้านผลประกอบการ บล.เคจีไอ ประเมินว่าจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้ปรับลดจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศและในประเทศของปี 63 ลง 40% YoY และ 25% YoY ตามลำดับ ดังนั้นคาดว่าผลการดำเนินงานปี 63 จะขาดทุนสุทธิราว 805 ล้านบาท

แนะนำเพียง "ถือ" โดยให้ราคาเป้าหมายปี 63 ไว้เท่ากับ 1.20 บาท

ราคาหุ้น AAV วันนี้ดิ่งลงไปทำจุดต่ำสุดช่วงเช้าที่ 1.02 บาท ก่อนมาปิดตลาดเช้านี้ไปที่ 1.05 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือ -3.67% 

*** THAI มีเงิน 2 หมื่นลบ. อยู่ได้อีก 3 - 4 เดือน ขอรัฐกู้เงินเพิ่ม

ส่วน THAI ในช่วงสิ้นปี 62 มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นอยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายดำเนินงานคงที่อยู่ที่ 6 พันล้านบาทต่อเดือน ดังนั้นกระแสเงินสดเพียงพอ 3 - 4 เดือน

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า THAI ได้เสนอขอกู้เงินราว 3 - 5 หมื่นล้านบาท เพื่อมาช่วยเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น แต่เนื่องจากแผนยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้เงินกู้ดังกล่าวไปดำเนินการอย่างไร จึงให้ไปทำแผนที่ชัดเจนมากกว่านี้ โดยให้เวลา 1 สัปดาห์ แต่จนถึงขณะนี้การบินไทยยังไม่ส่งแผนกลับมา

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัญหาทางธุรกิจแต่รัฐจะไม่ให้การบินไทย ล้มละลาย แน่นอน แต่การบินไทยจะต้องปรับโครงสร้างครั้งใหญ่

ราคาหุ้น THAI วันนี้ดิ่งลงไปทำจุดต่ำสุดช่วงเช้าที่ 3.04 บาท ก่อนมาปิดตลาดเช้านี้ไปที่ 3.10 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -3.13%

*** BA เงินสด 9.3 พันลบ. อยู่ได้ 9 - 10 เดือน ปรับลดค่าใช้จ่ายเต็มที่

BA ณ สิ้นปี 62 มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นอยู่ที่ 9.3 พันล้านบาท คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือนราว 1 พันล้านบาท กระแสเงินสดเพียงพอ 9 - 10 เดือน

ซึ่งทางบริษัทระบุว่ามีแนวทางลดผลกระทบ ด้วยการปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น การปรับลดเงินเดือน และค่าตอบแทนสำหรับผู้บริหาร และพนักงาน ในอัตรา 10-50% ตามตำแหน่งงาน, การลาโดยไม่รับค่าจ้างของพนักงาน, การปรับลด/ยกเลิกสวัสดิการต่าง ๆ ของพนักงาน, การลดค่าใช้จ่ายด้านการปฏิบัติงาน ณ สถานีต่าง ๆ ทุกแห่ง โดยให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ตามสถานีต่าง ๆ กลับมาประจำการที่สถานีกรุงเทพ

การปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมอื่น ๆ การเจรจาขอลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าพื่นที่ ค่าบริการภาคพื้นดิน ค่าจอดอากาศยาน ค่าจราจรทางอากาศ ค่าภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บจากค่าน้ำมันอากาศยาน เป็นต้น, การลดจำนวนเครื่องบินที่ใช้ในการปฏิบัติการ รวมทั้งการเจรจาต่อรองค่าเช่าเครื่องบินกับผู้ให้เช่าเครื่องบิน และการขอวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และการเจรจาปรับเปลี่ยนตารางการชำระหนี้

ขณะที่ราคาหุ้น BA วันนี้ดิ่งลงไปทำจุดต่ำสุดช่วงเช้าที่ 3.86 บาท ก่อนมาปิดตลาดเช้านี้ไปที่ 3.92 บาท ลดลง 0.08 บาท หรือ -2%

*** อาจต้องหยุดนานกว่าที่คิด ลุยขอคลังปล่อยซอฟท์โลน 1.6 หมื่นลบ.

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร  AAV เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งรวมไปถึงธุรกิจการบินด้วย ทำให้บริษัทยื่นหนังสือต่อกระทรวงการคลังในการขอโซฟท์โลน วงเงิน 16,000 ล้านบาท โดยเป็นการขอวงเงินร่วมกับอีก 6 สายการบิน เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบจนต้องหยุดการบินเส้นทางในประเทศ และ ต่างประเทศ โดยล่าสุดคาดว่า จะต้องหยุดบินมากกว่าที่คาดไว้ 1-2 เดือน

"ตอนนี้กระทบไปหมด ไม่ใช่แค่สายการบินเราเท่านั้น ซึ่งตอนแรกประเมินว่าจะหยุดบินแค่เดือนเม.ย. แต่ตอนนี้ยังพบว่า คนติดเชื้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในไทย หรือ ต่างประเทศ ทำให้เราคาดว่า เบื้องต้นอาจต้องหยุดบินออกไป 1-2 เดือน หรือ จนถึงเดือนมิ.ย. และ ลุ้นว่า สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้นในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะการท่องเที่ยว" นายธรรศพลฐ์ กล่าว

*** โบรกฯมองขาลงเต็มขั้น ทั้งกลุ่มทรุดหนัก อาจขาดทุนสูงถึง 6.6 หมื่นลบ.

บล.โนมูระ พัฒนสิน ให้แนะนำ "BEARISH" กับกลุ่มการบิน สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 รุนแรงกว่าคาด มีการแพร่ระบาดแล้วใน 195 ประเทศทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 5 แสนราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 หมื่นราย ทำให้หลายประเทศมีมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และหลายสายการบินทั่วโลกประกาศยกเลิกเส้นทางบินระหว่างประเทศเป็นระยะเวลา 1 - 2 เดือนเป็นอย่างน้อย เราคาดปี 63 กลุ่มการบินมีผลขาดทุนสูงถึง -66,416 ล้านบาท จากปีก่อนหน้ามีกำไร 12,861 ล้านบาท คาดจุดต่ำที่สุดของผลประกอบการอยู่ในช่วง 2/63

ภาพรวมของหุ้นสายการบินตอนนี้ย่ำแย่ถึงขั้นว่า แผนธุรกิจคือทำอย่างไรจะรักษาชีวิตไว้ได้จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย ห่างไกลกับสภาพธุรกิจในสถานการณ์ปกติมาก ดังนั้นหากนักลงทุนต้องการซื้อเพื่อหวังให้ผลประกอบการฟื้นคงจะต้องรอไปยาวๆ และก็มีความเสี่ยงด้วยหากสถานการณ์ยืดเยื้อกว่าที่คิดไปอีก

ดูข่าวต้นฉบับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0