โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

คัดสรรหุ้นจิ๋วราคาถูก แถมแจกกำไรเพียบ

Wealthy Thai

อัพเดต 10 ส.ค. 2566 เวลา 03.12 น. • เผยแพร่ 29 มี.ค. 2564 เวลา 10.59 น. • This’s Alano

ปัจจุบันหุ้นขนาดเล็กกลับมามีกระแสนิยมจากนักลงทุนอีกครั้ง เห็นได้จากบางตัวมีปริมาณการซื้อขายเข้ามาจำนวนมาก จนทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มอย่างอย่างรวดเร็ว สะทัอนจากดัชนี mai ล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 33.51% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน (25 มี.ค.63) เมื่อเทียบกับ ดัชนี SET ที่ปรับเพิ่มขึ้น 8.40%
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมากระแสนิยมของหุ้นขนาดเล็ก ส่วนหนึ่งมาจากการเก็งกำไรระยะสั้น ยิ่งช่วงที่มีข่าวประกาศขยายธุรกิจต่างๆ ก็ยิ่งได้รับความนิยมสูง แต่ความเสี่ยงก็สูงเช่นเดียวกัน ยิ่งเป็นหุ้นราคาต่ำบาท ก็ยิ่งมีความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนของราคามากยิ่งขึ้น ดังนั้นบรรทัดสุดท้าย “พื้นฐานของหุ้น” ก็คือตัวชี้วัดราคาได้เป็นอย่างดี
แต่หากนักลงทุนท่านไหนรับความเสี่ยงได้ ทีมข่าว Wealthy Thai ได้มีการรวบรวมข้อมูลหุ้นราคาไม่เกิน 1.5 บาทต่อหุ้น มาฝากนักลงทุน โดยจะเป็นการคัดกรองหุ้นที่มี P/BVหรือ Price to Book Value ต่ำกว่า 1 เท่า รวมทั้งค่า P/E อยู่ในระดับต่ำที่พอรับได้ และที่สำคัญผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมายังมีกำไรสุทธิให้นักลงทุนได้เชยชมอีกด้วย
จากการตรวจสอบข้อมมูลผ่าน setsmart.com พบว่า หุ้นราคาไม่เกิน 1.5 บาทต่อหุ้น รวมทั้งมีค่า P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า ประกอบกับกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/63 หรือทั้งปี 2563 ที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยผลสำรวจมีดังนี้

เฟ้นหาหุ้นเด่น

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ได้เปิดเผย “หุ้นเด่น 100 เดียวก็ซิ่งได้” ว่า ที่มาของการค้นหาหุ้นเด่น 100 เดียวก็ซิ่งได้ เกิดจากฝ่ายวิจัยฯเห็นข้อมูลในหลายๆมิติ หนุนให้หุ้นราคาไม่กี่บาท ได้รับความสนใจมาก แถมยัง Outperform ได้ดี ดังนี้
1.จำนวนผู้เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นใหม่ต่อเดือนในปีนี้ พุ่งขึ้นแรงกว่า 8 เท่า ของภาวะปกติ มีส่วนสำคัญในการผลักดันดัชนี คือ ยอดผู้เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นใหม่ในเดือน ก.พ. 64 อยู่ที่ 2.7 แสนราย, เดือน ม.ค. 64 1.9 แสนราย สูงกว่าปกติภาวะปกติที่มียอดผู้เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นใหม่ต่อเดือนไม่ถึง 3 หมื่นราย ส่วนหนึ่งเกิดจากการ Search For Yield ของนักลงทุน หลังดอกเบี้ยยืนอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์มานาน รวมถึงการหันมาลงทุนเองหลังจากกองทุน LTF ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
2.ตลาดหุ้นไทยขึ้นได้โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆในภูมิภาค และยิ่งเป็นดัชนีหุ้นขนาดเล็กยิ่ง Outperform โดดเด่นขึ้นไปอีก อาทิ ดัชนี MAI เพิ่มขึ้น 33.5%YTD, SSET เพิ่มขึ้น 25.3% YTD ขณะที่ SET Index เพิ่มขึ้น 8.4% YTD (สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค)
3.หากวิเคราะห์ให้ลึกลงไปจะพบว่า หุ้นที่ราคาถูกเพียงไม่กี่บาท กลับได้รับความสนใจมาก แถมยัง Outperform ได้ดีในปีนี้ โดยฝ่ายวิจัยฯได้ทำการเปรียบเทียบการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในช่วง YTD ของหุ้นทั้งหมดในแต่ละระดับราคา พบว่า ในช่วงระดับราคาหุ้นยิ่งต่ำ กลับยิ่งได้รับความสนใจและ Outperform ตลาดได้ดีในปีนี้ ดังภาพทางด้านล่าง เช่น หุ้นที่มีราคาตั้งแต่ 0.1 ถึง 1 บาท ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อตัวสูงถึง 44% YTD และราคาหุ้นยิ่งสูงขึ้น ผลตอบแทนที่ได้กลับลดน้อยลงตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยเล็งเห็นถึงความต้องการหาผลตอบแทนจากนักลงทุนที่เดินเข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้นอย่างมีนัยฯ และบางส่วนมีการเข้าไปเก็งกำไรอย่างร้อนแรงในหุ้นที่ราคาไม่แพงมากนัก ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงในการเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก เบี้องต้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการคัดกรองหุ้นขนาดเล็กมีกำไร ราคาต่ำบุ๊ค พอจะมีสภาพคล่อง เพิ่มความคุ้มเสี่ยงมากขึ้นที่จะเข้าไปเก็งกำไรในช่วงนี้ โดยผ่านเงื่อนไขต่างๆถึง 7 ข้อ ดังนี้
1.ราคาหุ้นน้อยกว่า 1.5 บาท 2.ผลประกอบการไตรมาส 4 มีกำไร 3.ผลประกอบการปี 63 มีกำไร 4.มีการเติบโตของกำไรในปี 2563, 5.PBV น้อยกว่า 1 เท่า เพราะในเชิงพื้นฐานถือว่าไม่แพง 6.ค่า P/E น้อยกว่า 40 เท่า ในเชิงพื้นฐานพอรับไดเที่จะเข้าเก็งกำไร และ7. มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 5 ล้านบาทต่อวัน โดยมีสภาพคล่องพอที่จะเข้าเก็งกำไรได้บ้าง โดยพบ 8 หุ้นเด่นดังนี้ 7UP,AKR,CCP,ESTAR,KIAT,OCEAN,PRIME และ SKE

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0